
หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทอันโด่งดังอย่าง Apple และมือขวาของ สตีฟ จ็อบส์ คนนี้ ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับ โธมัส กอร์นี (Thomas Gorny) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหาร Nextiva ในงานประชุมธุรกิจด้านเทคโนโลยี NextCon ที่จัดขึ้น ณ เมืองสก็อตส์เดล มลรัฐแอริโซนา เมื่อปี 2016
ระหว่างการสนทนา วอซเนียกได้แบ่งปันเคล็ดลับที่สำคัญยิ่งต่อเจ้าของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งได้สรุปออกมาเป็น 4 อย่างหลักๆ ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรนำไปใช้ ดังนี้
1. คุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แม้ไม่ได้อยู่จุดที่โดดเด่นก็ตาม
สตีฟ จ็อบส์ มักถูกถ่ายทอดผ่านสื่อในภาพของผู้ที่มีวิสัยทัศน์ราวกับพระเจ้า และเขาก็เป็นผู้ที่ได้รับ ความสนใจอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันอีกคนที่ทำงานอย่างหนักอยู่เบื้องหลังอย่างวอซเนียก ก็ได้สร้างรากฐานให้กับบริษัท เพื่อให้จ็อบส์ได้เป็นคนเผยแพร่วิสัยทัศน์ของบริษัทออกสู่สาธารณะ
วอซเนียก กล่าวว่า เขาพอใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ ความสำเร็จไม่ได้นำมาซึ่งชื่อเสียงเสมอไป ถ้าเขาต้องการมีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกันกับจ็อบส์ ทั้งคู่ก็คงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ แต่ด้วยทักษะที่แตกต่างกันของทั้งคู่ต่างหากที่ทำให้วิสัยทัศน์ของบริษัทกระจ่างมากขึ้น
อย่ายึดติด: บทเรียนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ก่อตั้งบริษัทส่วนใหญ่มักใฝฝันถึงการได้ขึ้นปกนิตยสารธุรกิจ ชื่อดัง หรือถูกนำเรื่องราวไปสร้างเป็นหนังเหมือน มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก แต่กระนั้น ชื่อเสียงก็ไม่ควรเป็น สิ่งสำคัญอันดับแรกในการทำธุรกิจ จงอย่าใช้อีโก้ในการบริหารธุรกิจจนนำไปสู่การตัดสินใจอันผิดพลาดได้
วอซเนียกเองก็ให้ความสำคัญกับ Apple มาก่อนตัวเขาเสมอ เขาถึงสามารถรังสรรค์หนึ่งในเทคโนโลยี
ที่ดีที่สุดในโลกอย่างที่เราเห็นกันสำเร็จ
2. คุณต้องรักและหลงใหลในงานของตัวเอง
ในการพูดที่งาน Nextcon วอซเนียกได้แสดงให้เห็นถึงความสุขและความหลงใหลของเขาผ่านรอยยิ้มที่สดใส โดยเฉพาะเมื่อได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเทคโนโลยี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความหลงใหลแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เขาสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจและสะเทือนวงการขนาดนี้ได้
โดยช่วงแรกที่ตั้งบริษัท Apple วอซเนียกไม่ได้สนใจเรื่องกำไรหรือวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่เลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเขามีความรักและอยากสร้างสิ่งที่เขารักให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้เท่านั้นเอง
ความสุขจากงาน: ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม จงให้ความสำคัญกับความสุขก่อนเสมอ แล้วค่อยคิดเรื่องการตลาด อย่ามัวแต่กังวลแค่กำไรและผลประโยชน์ เพราะนั่นจะเป็นสิ่งที่คุณได้เรียนรู้และปรับปรุงระหว่างทางเอง อย่างที่วอซเนียกเคยกล่าว “จุดมุ่งหมายของผมไม่ใช่เรื่องของเงินทอง ผมแค่อยากรังสรรค์ คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดแค่นั้น” บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกมักเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์อันแสนจะเรียบง่ายเช่นนี้นี่แหละ
3. หาคนที่เต็มใจทำงานท่ามกลางข้อจำกัดมากมาย
วอซเนียกทำให้เราได้เห็นว่า เขาคือคนที่ทุ่มเทเพื่อสิ่งที่รักแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่า คนที่จะเป็นผู้ประกอบการได้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้นำทางความคิด แทนที่จะเป็นคนที่ทุ่มเทเวลาศึกษาพัฒนาตัวเนื้องานธุรกิจแล้วปล่อยให้ชื่อเสียงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
จงมองหาคนที่หมกมุ่นกับการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ในโรงรถของตัวเองมาร่วมงานด้วย เพราะเขาเหล่านี้แหละที่เป็นนักแก้ปัญหาชั้นยอด และทำทุกอย่างโดยไม่หวังความสนใจ ชื่อเสียง หรือผลตอบแทนใดๆ ผู้สร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่จะทำงานของตนโดยไม่สนว่าจะมีใครจะเห็นหรือไม่ และแก้ปัญหาได้เก่งกว่าคนที่เรียนจบสูงๆ เสียด้วยซ้ำไป
4. สร้างทีมงานที่เห็นความสำคัญของตัวผลิตภัณฑ์
“จงหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวคุณเอง” นี่เป็นคำพูดที่ดูจะแสนเรียบง่ายแต่ชัดเจนของวอซเนียก จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้มีคนมากมายที่สร้างเทคโนโลยีไปตามเทรนด์ แต่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่ตัวเองมองเห็นและประสบอยู่เลย
วอซเนียกชี้ว่า คุณต้องสร้างสิ่งที่คุณและทุกคนในทีมของคุณศรัทธาร่วมกันและจะนำมาใช้จริง จงสร้างสิ่งที่ตอบสนองความต้องการและสามารถแก้ปัญหาที่คุณมีก่อน เพราะถ้าแม้แต่ผู้สร้างเองยังต้องการผลิตภัณฑ์นั้น แล้วคนอื่นๆ ก็ย่อมต้องอยากใช้เหมือนกันนั่นเอง
ทั้งหมดเหล่านี้คือสิ่งที่เจ้าของกิจการทุกคนควรเรียนรู้จากวอซเนียก ผู้เป็นพลังขับเคลื่อนของหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Apple และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหนึ่งในนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคสมัยนี้
Source : Entrepreneur