ทุกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จล้วนเกิดจากการแก้ปัญหาบางอย่างให้บางคน เพราะมนุษย์เรามักมองหาวิธีการที่ดีกว่า สะดวกกว่า หรือ คุ้มค่ากว่า อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสาเหตให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ก่อตั้งธุรกิจคือการค้นหาปัญหาที่เจ็บปวดเหล่านี้และจับคู่กับแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุด
เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นธุรกิจยังไง? ไม่รู้ว่าจะเลือกสินค้าหรือบริการอะไร ที่จะทำให้ธุรกิจสามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้
ผมของแนะนำแบบนี้ “ลองเริ่มต้นจากตัวคุณก่อน” มองย้อนกลับไปว่าคุณเคยทำอะไรมาบ้าง แล้วปัญหาที่คุณเจอคืออะไร
ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรก่อนหน้านี้ คุณจะต้องมีบางสิ่งที่คุณเชี่ยวชาญ อาจจะเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่การจัดสวนขนาดเล็ก ไปจนถึงการออกแบบอาคารขนาดใหญ่ เราทุกคนล้วนมีความเชี่ยวชาญบางอย่าง ผมไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นระดับหัวกะทิ ขอแค่คุณเข้าใจมันและสามารถพูดคุยอธิบายเรื่องนั้นให้คนอื่นฟังได้อย่างมั่นใจก็พอแล้ว
คุณอาจจะมีความเชี่ยวชาญบางอย่างที่คุณคิดว่ามันไร้สาระ แต่อย่าดูถูกความเชี่ยวชาญเหล่านั้นเลยครับ แล้วมาลองทำการประเมินด้วยการถามคำถามเหล่านี้ดู:
- คุณประสบกับปัญหาอะไรบ้างในชีวิต
- คุณมีความหลงใหลเกี่ยวกับอะไรบ้าง
- คุณมีความรู้อะไร ที่มากกว่าคนทั่วไป
- คุณสามารถสร้างสินค้าหรือบริการอะไร ที่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้
คำถามเหล่านี้เป็นเหมือนแนวคิดที่จะช่วยให้คุณค้นหาธุรกิจในฝันของคุณเจอ กล่าวคือ คุณสามารถนำปัญหาที่คุณพบเจอในชีวิตประจำวัน หรือ ความหลงใหลที่คุณมีต่อบางสิ่งบางอย่าง มาสร้างเป็นธุรกิจได้ ลองลิสต์คำตอบออกมาดูครับ
หลังจากที่คุณลิสต์คำตอบออกมา แล้วเริ่มมีไอเดียธุรกิจในใจแล้ว ลองตอบคำถามข้างล่างนี้ดูครับ แล้วคุณจะได้ไอเดียธุรกิจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น:
- คุณมีประสบการณ์และความรู้เพียงพอหรือยัง?
- กลุ่มคนที่พบปัญหาลักษณะนี้ มักจะพบได้ที่ไหน?
- กลุ่มเป้าหมายของคุณ ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือไม่? แล้วอยู่ในแพลตฟอร์มไหน?
- มีองค์กรวิชาชีพ หรือ สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถให้ความช่วยเหลือ หรือไม่?
- สื่อ (เช่นนิตยสาร พอดแคสต์ และบล็อก) สำหรับหัวข้อที่เกี่ยวข้อง มีอะไรบ้าง?
- ฉันสามารถร่วมมือกับใคร หรือบริษัทใด เพื่อแก้ปัญหานี้ได้บ้าง
เท่านี้โมเดลธุรกิจคุณก็มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้วครับ ลำดับต่อไป ลองนำโมเดลธุรกิจของคุณไปพูดคุยกับเพื่อน หรือญาติพี่น้อง เพื่อฟังความคิดเห็นของพวกเขา และนำไปคุยกับกลุ่มลูกค้ามุ่งหวัง ลองถามพวกเขาว่า “ถ้ามีสินค้าหรือบริการแบบนี้ พวกคุณจะใช้บริการหรือไม่?” หลังจากนั้นก็นำคำตอบทั้งหมดกลับมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ว่าคุณควรจะเดินหน้าต่อ หรือ หาไอเดียธุรกิจอันใหม่
Source: https://www.entrepreneur.com/article/347157