6 วิธีสร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง เวลาที่คุณท้อแท้หรือหมดกำลังใจ

35151

แม้แต่คนที่มีความพยายามและมีแรงกระตุ้นสูง ก็ย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเสมอ บ่อยครั้งที่เราหาสาเหตุไม่เจอว่าทำไมเราถึงรู้สึกท้อแท้แบบนี้ แต่มันก็มีวิธีที่จะทำให้ความรู้สึกท้อแท้เหล่านั้นหายไปได้ พร้อมทั้งช่วยให้คุณกลับมามีกำลังใจได้ใหม่อีกครั้งด้วย และนี่ก็คือ 6 วิธีสร้างแรงจูงใจให้กับคุณ ในเวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้หรือหมดหวัง

1. พยายามหาสาเหตุว่าทำไมคุณถึงท้อแท้

เหนื่อย

และนี่ก็คือตัวอย่างสาเหตุที่อาจทำให้คุณรู้สึกท้อ จงลองหาสาเหตุของตัวเองให้พบ

  • คุณกลัวบางสิ่งบางอย่างที่คุณต้องทำ และคุณผัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อย เพราะคุณไม่ได้ทำมันด้วยความเต็มใจตั้งแต่แรก
  • คุณอาจจะเหนื่อย อาจขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนหรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ หรืออาจจะป่วยก็ได้ ซึ่งทำให้คุณรู้สึกไม่โอเคนัก
  • คุณขาดความมั่นใจในตนเอง คุณกลัวที่จะก้าวขาออกจากพื้นที่สุขสบายของคุณ
  • คุณกำลังอยู่ระหว่างการทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมันอยู่ในช่วงที่ยากที่สุด จนทำให้คุณท้อใจ

2. เวลาที่คุณกลัวบางสิ่งที่ต้องทำ จงพยายามทำต่อให้สำเร็จ

ออกกำลังกายตอนเช้า

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการจะออกกำลังกายตอนเช้า แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ คุณก็ต้องหาวิธีที่จะทำมันให้สำเร็จ โดยอาจลองจะพยายามวางชุดออกกำลังกายไว้ข้างเตียงเพื่อที่ตื่นมาจะได้เห็นมันเป็นสิ่งแรก หรือไม่ก็โทรนัดเพื่อนให้ไปเจอกันที่โรงยิมเพื่อที่จะได้ไปออกกำลังกายกัน การมีเพื่อนที่มีความรับผิดชอบจะช่วยสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ทำให้แผนการของคุณสำเร็จได้เป็นอย่างดี

3. หากว่าคุณเหน็ดเหนื่อย คุณควรดูแลสุขภาพ

สลัด

บางครั้งร่างกายของคุณอาจต้องการการพักผ่อน หรือต้องการการออกกำลังกาย และในบางวันร่างกายของคุณเพียงแค่ต้องการให้คุณลุกออกจากโต๊ะทำงาน แล้วออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง ลองนึกถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของคุณ คุณพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า? คุณรับประทานอาหารที่มีประโยชน์บ้างไหม? ครั้งล่าสุดนี้คุณป่วยเป็นอะไรจึงทำให้คุณรู้สึกแย่จนถึงตอนนี้?

ลองสังเกตดูว่า คุณดูแลสุขภาพและร่างกายคุณดีพอหรือยัง การดูแลร่างกายให้ดีจะช่วยให้คุณหายจากอาการท้อแท้ที่เป็นอยู่ได้

4. เมื่อคุณขาดความมั่นใจ ลองหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเป็นแบบนั้น

สนุก ดนตรี

คุณกำลังมีปัญหาอยู่กับการคิดในแง่ลบอยู่หรือเปล่า? มีคอมเม้นต์แง่ลบหรือพบเจอเหตุการณ์แย่ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกแย่จนถึงตอนนี้ไหม? คุณชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือไม่? หากคุณกำลังมองทุกอย่างในแง่ลบ คุณควรปล่อยวาง คิดบวก แล้วหันมาชื่นชมตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง หรือไม่ก็หาอะไรสนุกๆ ทำ เพื่อให้ชีวิตคุณมีความสุขได้แล้ว

5. หากคุณเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว จงพยายามต่อไปให้สุด

เส้นทาง

เมื่อคุณตั้งใจจะทำงานใหญ่ๆ สักงาน แน่นอนว่าในช่วงแรกๆ คุณมักมีแรงกระตุ้นที่ดีเสมอ เส้นชัยของคุณจะดูชัดมาก คุณมีความคาดหวังและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ส่วนในช่วงสุดท้ายของงานก็ง่ายที่จะเกิดแรงกระตุ้นด้วยเช่นกัน เมื่อคุณเริ่มมองเห็นปลายทาง คุณก็จะรู้สึกตื่นเต้นและอยากทำมันให้เสร็จโดยเร็ว

แต่ช่วงระหว่างทางนี่สิที่ยากที่สุด แรงกระตุ้นในช่วงแรกก็จะค่อยๆ หายไป และก็ดูเหมือนว่าเส้นชัยจะไกลออกไปเรื่อยๆ คุณจะตระหนักได้ว่าเวลาและความพยายามที่คุณต้องใช้นั้น ต้องมากมายขนาดไหนถึงจะทำให้งานของคุณสำเร็จได้ แล้วคุณจะเริ่มรู้สึกท้อแท้ขึ้นมา

คุณควรคิดอยู่เสมอว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณริเริ่มสิ่งนั้นขึ้นมา? แล้วทำไมสิ่งนั้นถึงมีความหมายสำหรับคุณ? หลายครั้ง การระลึกได้ว่า “ทำไม?” จะสามารถช่วยกระตุ้นให้คุณเลิกรู้สึกท้อแท้และหมดหวังได้

“ไม่สำคัญว่าคุณจะก้าวไปอย่างช้าๆ ตราบใดที่คุณไม่ยอมหยุด คุณก็ยังมีหวัง” ― ขงจื้อ (Confucius)

6. จงจำเอาไว้ว่าอาการท้อแท้ หมดหวัง จะไม่มีทางอยู่กับคุณตลอดไป พยายามรีบหาทางนำอาการเหล่านั้นออกไปจากตัวคุณให้เร็วที่สุด

เริ่มจากการก้าวไปข้างหน้าด้วยก้าวสั้นๆ จำไว้ว่าความพยายามมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของคุณเสมอ เส้นทางความสำเร็จเป็นเหมือนการผจญภัยในถนนที่เต็มไปด้วยหนทางคดเคี้ยวและขรุขระ ซึ่งมันไม่ได้เป็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใคร ๆ คิด แต่ทุกก้าวที่คุณกล้าเดินไปนั้น จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและทำมันได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้คุณเดินหน้าต่อไปและขับไล่อาการแย่ๆ เหล่านั้นออกไปได้

ทุกครั้งที่คุณตั้งเป้าหมาย คุณจะต้องพบเจอกับอุปสรรค และอุปสรรคเหล่านั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ ไร้แรงกระตุ้น แต่อย่างไรก็ตาม การผลักดันตัวเองให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้และพยายามเอาตัวเองออกจากความรู้สึกนั้น ล้วนช่วยให้คุณมีความมั่นใจและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้มากขึ้น เมื่อคุณพบว่าคุณสามารถทำให้ตัวเองมีแรงกระตุ้นได้อีกครั้ง คุณก็จะมีวิธีการรับมือกับมันได้อีกในอนาคต

 

Source : lifehack