
เชื่อไหมครับว่า…มีบริษัทที่มี ผลกำไรต่อพนักงาน (Profitable per employee) มากกว่าบริษัท Apple หรือ Google?
บริษัทนั้นมีชื่อว่า Valve Corporation บริษัทพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ของโลก เชื่อว่าคนไทยหลายคนต้องเคยเล่นเกมของบริษัทนี้อย่างแน่นอน และบริษัทนี้ยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Steam อีกด้วย
เนื่องจากบริษัทไม่ได้เข้าตลาด และไม่ได้เปิดเผยผลประกอบการสู่สาธารณะ เราจึงไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัด แต่จากการคาดการณ์ Valve มีรายได้มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีอย่างแน่นอน และทางผู้ก่อตั้ง Gabe Newell ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า บริษัทเขามี ผลกำไรต่อพนักงาน มากกว่าทั้ง Apple และ Google อีกต่างหาก
และอะไรคือกุญแจความสำเร็จของ Valve? คำตอบก็คือ “พนักงาน”
จากการศึกษา คู่มือที่บริษัทแจกให้กับพนักงานหน้าใหม่ (New Employee Handbook) พบว่า บริษัท Valve ไม่ได้มีการแบ่งลำดับขั้นเลย พนักงานทุกคนอยู่ในระดับเดียวกันหมด เพราะฉะนั้นการจ้างพนักงานที่สุดยอดเข้ามา เขาก็สามารถที่จะสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ให้กับบริษัทได้ในทันที (วิธีการบริหารแบบนี้มีข้อดีคือความ agile แต่พนักงานทุกคนต้องมีความเชี่ยวชาญ และความรับผิดชอบในระดับสูงมาก ถึงจะเวิค)
และอะไรล่ะ คือสิ่งที่ Valve มองหาในตัวพนักงาน คำตอบคือ “T-Shaped Model”
อะไรคือ T-Shaped Model
ในคู่มือพนักงานได้นิยามคำว่า พนักงาน T-Shaped ไว้ว่า…
คนที่มี ความรู้รอบด้าน (มีทักษะอย่างกว้างขวางในสาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์) และ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (ต้องเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในสาขาวิชานั้น) ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป Valve จะไม่รับเข้าทำงาน
ในคู่มือได้กล่าวไว้ว่า…
ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง มีปัญหาเรื่องการทำงานร่วมกับคนอื่น ส่วนคนที่มีความรู้รอบด้าน แต่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็ไม่สามารถสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ให้กับองค์กรด้วยตัวคนเดียวได้เช่นกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พนักงาน T-Shaped สามารถทำงานหลักของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทำงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานหลักได้อย่างดีเช่นกัน นอกเหนือจากทักษะทางเทคนิค เช่นความสามารถในการเขียนโค้ดหรือความสามารถด้านการออกแบบแล้ว พวกเขายังมีทักษะทางความคิด เช่นความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และ Design Thinking ทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพสูง ที่สามารถเพิ่มผลผลิตโดยรวมขององค์กรได้
Jason Yip โค้ชอาวุโสด้าน Agile ของ Spotify กล่าวว่า เนื่องจากงานส่วนใหญ่ในวันทำงานปกติ แทบไม่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเลย เราจึงสามารถถ่ายโอนงานที่ไม่ใช่งานของผู้เชี่ยวชาญให้กับพนักงานที่เป็น T-Shaped ได้ เนื่องจากทักษะและประสบการณ์ของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงงานหลักของพวกเขา พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ ทั่วทั้งองค์กรได้ การทำงานข้ามสายงานประเภทนี้ ช่วยให้องค์กรทำอะไรได้มากกว่าเดิม ด้วยจำนวนพนักงานที่เท่าเดิม
การฝึกฝน เพื่อเป็นคน T-Shaped
ในระดับบุคคล คุณสามารถเป็นคน T-Shaped ได้มากขึ้น โดยการฝึกสกิลในสาขาอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับสาขาความเชี่ยวชาญของคุณ การที่เราคุ้นเคยกับสาขาอื่นๆ ช่วยเพิ่มความกว้างของขอบเขตความรู้ และยังเพิ่มความลึกในสาขาความเชี่ยวชาญเดิมของคุณด้วย
การลงทุนในทักษะขององค์กร เสริมสร้างการทำงานร่วมกันและการสื่อสารสำหรับสมาชิกในทีมและระหว่างทีม เพิ่มความคล่องตัวของพนักงานซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร การสร้างแผนพัฒนาทักษะขั้นสูงในตอนนี้สามารถช่วยให้ผู้นำสร้างทีมที่พร้อมสำหรับอนาคตได้
Source:
https://www.businessinsider.com/game-developer-valve-hiring-strategy-2014-12
https://www.forbes.com/sites/lisabodell/2020/08/28/futurethink-forecasts-t-shaped-teams-are-the-future-of-work/?sh=2f7107455fde