เป็นที่เห็นได้ชัดเจนว่าในยุคนี้สำหรับผู้หญิงบางคน สิ่งที่เรียกว่า “เพดานที่มองไม่เห็น” นั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลขทางสถิติที่ยืนยันได้ว่าเจ้าสิ่งที่กีดกันหนทางสู่ความสำเร็จของผู้หญิงนั้นยังมีอยู่ ซ้ำผู้หญิงหลายคนยังต้องผจญกับเรื่องแบบนี้อยู่ทุกวัน แต่กระนั้นปัจจุบัน ก็มีผู้หญิงหลายคนที่ก้าวขึ้นไป สู่จุดสูงสุดของอาชีพตนได้สำเร็จ และแทบจะไม่ได้กล่าวถึงเพดานที่มองไม่เห็นนั้นเลย
จิล กริฟฟิน (Jill Griffin) ผู้เขียนหนังสือ Women Make Great Leaders ได้กล่าวไว้ว่า เธอได้ค้นพบปรากฎการณ์นี้ระหว่างเขียนหนังสือเล่มดังกล่าว และสัมภาษณ์เหล่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสอบถามว่าพวกเธอเอาชนะการกีดกันทางเพศ ที่ผู้คนอื่นๆ กำลังเผชิญอยู่ได้อย่างไร เธอพบว่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้นกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ถึง 6 แนวคิดที่ช่วยผลักดันให้พวกเธอก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ดังต่อไปนี้
1. จงสร้างสัมพันธ์อันดีในการทำงาน
เป็นเรื่องง่ายที่จะมองว่าผู้ชาย คือศัตรูในที่ทำงานที่คุณต้องฟาดฟันและอยู่เหนือให้ได้ แต่สำหรับผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จแล้ว พวกเธอไม่ใช้ชีวิตการทำงานภายใต้กรอบความคิดแบบนั้น จริง ๆ แล้ว พวกเธอค้นพบว่ามีผู้ชายที่น่าสนใจมากมายด้วยซ้ำที่ไม่เคยแสดงออกว่าไม่ยอมรับความสำเร็จของพวกเธอ การเพ่งเล็งว่าผู้ชายคือศัตรูมีแต่จะทำให้เกิดความตึงเครียด ซ้ำยังส่งผลให้คุณหมดโอกาสได้รับคำแนะนำดี ๆ ที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในองค์กรของคุณเองด้วย ฉะนั้น จงสร้างสัมพันธ์อันดีเอาไว้ มองหาผู้ที่ให้คำปรึกษาได้อย่างชาญฉลาด คนที่คุณรู้ดีว่าเขาคือคนที่จะช่วยส่งเสริมคุณได้ จงเอาใจใส่ต่อคำแนะนำต่าง ๆ ของพวกเขา เพราะมันจะมีประโยชน์มากเมื่อถึงคราวจำเป็น
2. จงยินดีรับหน้าที่อันยากลำบากเมื่อเกิดปัญหา
ความสำเร็จและความล้มเหลวต่างก็เป็นสิ่งที่สร้างโอกาสให้กับคุณได้ เมื่อใดที่องค์กรของคุณกำลังย่ำแย่ ย่อมต้องมีการแก้ไขปัญหา และต้องมีคนช่วยแนะนำหาทางออกจากความวุ่นวายนั้น และแน่นอนเมื่ออะไร ๆ กำลังไปได้สวย ก็ต้องมีคนเจ๋ง ๆ คอยทำหน้าที่ดูแลให้ทุกอย่างดำเนินได้ดีต่อไปได้ ทั้งสองกรณีที่ว่ามานี้ย่อมหมายความว่า โอกาสเป็นของคุณแล้ว ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องอาศัยทักษะสูง เพราะมันเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่จะล้มเหลว เมื่อเหล่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเลือกที่จะก้าวออกมารับทำหน้าที่เหล่านั้น โอกาสที่พวกเธอจะได้เลื่อนขั้นย่อมมีสูงมากยิ่งขึ้น ยังไงเสียก็มีคนตั้งมากมาย ที่ตั้งตารอคุณทำพลาดอยู่แล้ว เพราะงั้นความล้มเหลวคงไม่ใช่จุดจบของโลกหรอกมั้ง? ที่สำคัญกว่าก็คือ ทุกคนจะได้เห็นเมื่อคุณกอบกู้สถานการณ์วิกฤติได้ ทั้งคุณยังจะได้มีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทสูงขึ้นด้วย
3. อย่ากลัวหากต้องล้มเหลว
ข้อนี้แทบจะไม่ต่างกับข้อ 2 เลยทีเดียว เพราะเมื่อคุณรู้สึกว่า หากตัวเองก้าวพลาดเพียงก้าวเดียว หน้าที่การงานของคุณจะต้องจบลง คุณคงไม่มีวันได้ลองทำงานใหญ่ ๆ ให้ประสบความสำเร็จอย่างจริงจัง มันก็เป็นเรื่องดีนะ ที่คนเราจะมีวิตามินป้องกันความกลัวอยู่บ้างเมื่อต้องเสี่ยงกับอะไรสักอย่าง เพราะความกลัวสามารถเป็นแรงจูงใจยอดเยี่ยมทีเดียวสู่การค้นหาคำตอบ หรือมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จได้ ถ้าคุณไม่ปล่อยให้ความกลัวนั้นมาครอบงำจนไม่เป็นอันทำอะไรไปก่อน เหล่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ เองก็มีความกลัวเช่นกัน แต่พวกเธอก็เลือกที่จะสู้และลงมือทำอยู่ดี
4. ไม่ละเลยด้านการเงิน
แน่นอนอยู่แล้วว่าทักษะด้านความเป็นผู้นำและการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมีความสำคัญอย่างมากต่อการประสบความสำเร็จ แต่ทักษะพวกนั้นจะเป็นประโยชน์น้อยลงหากขาดคุณลักษณะสำคัญอีกประการ คือ ไหวพริบทางการเงินและธุรกิจ หากคุณอยากรู้และเข้าใจว่าทิศทางขององค์กรคืออะไร คุณจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าเงินถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง ง่ายๆ แค่นี้เอง จงพยายามพูดคุยไถ่ถามเรื่องการเงินเท่าที่จะเป็นได้ และเช่นเคย คุณควรจะมีที่ปรึกษาที่คอยช่วยอธิบายแนวทางบริหารการเงินขององค์กรด้วย
5. สร้างเครือข่ายหุ้นส่วนและผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง
ผู้หญิงมักจะสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆได้ดี พวกเธอรู้ว่าควรใช้วิธีไหนเพื่อเชื่อมสะพานความสัมพันธ์ ที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายอึดอัด นี่เป็นเหตุผลหลัก ๆ ว่าทำไมหลายๆ องค์กรในทุกวันนี้ต้องการพนักงาน และผู้บริหารที่เป็นผู้หญิง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครที่จะทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ในการสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ คุณจำต้องมีทีมที่จะคอยสนับสนุน และเต็มใจซื่อสัตย์ต่อคุณเสมอ
6. จงถ่อมตนและแน่วแน่
หากคุณทำตามคำแนะนำคุณจะ “ชนะ” แน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้น จงอย่าลืมมีน้ำใจนักกีฬา และนำความรู้ความสามารถที่ตนมีมาใช้ช่วยพัฒนาผู้อื่น สอนให้พวกเขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกปราถนา คุณเองก็ได้รับความช่วยเหลือมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะส่งต่อความช่วยเหลือเหล่านั้นให้กับคนอื่น ๆ บ้าง
Source: Success
