หน้าที่สำคัญของการเป็นผู้นำมีเพียงแค่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและกล้าที่จะตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ หากคุณคิดว่าสองหน้าที่ข้างบน คุณทำมันได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่จำเป็นเลยว่าคุณจะต้องมีหลายๆ หน้าที่ในเวลาเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือเรื่องชีวิตก็ตาม ทุกๆคนต่างมองหาผู้นำที่สามารถแนะนำ ชี้ทาง รวมไปถึงสามารถมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับงานหรือชีวิตของลูกทีมและสามารถแนะนำให้เข้าร่องเข้ารอยได้อย่างท่วงทัน ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นผู้นำทีดีนั้นจะต้องสามารถร่วมงานกับทุกคนในทีมได้และต้องมีความมั่นใจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ แทนทุกคนในทีมด้วย
หลายๆ คนอาจคิดว่า กลุ่มคนที่จะเป็นผู้นำที่ดีนั้นย่อมเป็นกลุ่มคนที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างคล่องแคล่ว ชอบพูดคุย ชอบอยู่กับสังคม ดังนั้นจึงคิดว่าเอ๊กโทรเวิร์ตน่าจะเหมาะสำหรับการเป็นผู้นำมากกว่า อินโทรเวิร์ต ถ้าคุณคิดเช่นนั้นก็อาจจะคิดผิดเล็กน้อย เพราะอินโทรเวิร์ตก็สามารถเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยไปกว่าเอกโทรเวิร์ตเลย
ในทางวิทยาศาสตร์และสถาบันฮาร์วาร์ดได้ทำการวิจัยว่า อินโทรเวิร์ตนั้นสามารถเป็นผู้นำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เช่นกัน เนื่องจากอินโทรเวิร์ตมีความคิดที่ซับซ้อนและคาดเดาได้ยาก หากจะพูดง่ายๆ คือ อินโทรเวิร์ตนั้นมีความคิดที่มีลักษณะเฉพาะ ไม่ซ้ำใคร และเป็นข้อแตกต่างของเอ๊กโทรเวิร์ต ซึ่งข้อดีของอินโทรเวิร์ตในข้อนี้ก็จะเป็นผลดีระยะยาวในการทำงาน
ข้อดีของผู้นำที่เป็นอินโทรเวิร์ตซึ่งคนทั่วไปมองไม่เห็น
อินโทรเวิร์ตมักจะมีความคิดที่สามารถประยุกต์สิ่งต่างๆ ให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นลักษณะเด่นของอินโทรเวิร์ตที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย
เราลองมาดูข้อดีด้านต่างๆ ของผู้นำที่เป็นอินโทรเวิร์ตกันเลย
1. อินโทรเวิร์ตมักจะใช้ผลงานมาเป็นแรงผลักดันมากกว่าใช้ความทะเยอทะยาน
ส่วนใหญ่คนมักเข้าใจผิดว่า อินโทรเวิร์ตมักไม่มีแรงจูงใจในการทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ แต่นั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะจริงๆแล้วอินโทรเวิร์ตนั้นมักคิดอย่างซับซ้อนและมักให้ผลงานและประสิทธิภาพของงานเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของพวกเขามากกว่าการได้รับการยอมรับในแบบของผู้ชำนาญหรือมืออาชีพ จึงบอกได้ว่าอินโทรเวิร์ตมักมีแรงจูงใจในการทำงานคือ ประสิทธิภาพหรือผลลัพธ์ของผลงานนั่นเอง
2. อินโทรเวิร์ตมักสร้างความสัมพันธ์ในการติดต่ออย่างมีเป้าหมาย
โดยปกติแล้วสิ่งที่ทำให้อินโทรเวิร์ตสามารถขับเคลื่อนงานไปได้ก็คือ คุณภาพและประสิทธภาพในการทำงานของพวกเขานั่นเอง ฉะนั้นหลายๆ คนจึงตังข้อสังเกตว่า แล้วการติดต่อสื่อสารกับผู้คนล่ะ อินโทรเวิร์ตสามารถทำได้ดีหรือไม่ ซึ่งก็สามารถบอกได้ว่าอินโทรเวิร์ตก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน แต่จะเป็นการติดต่อสื่อสารที่สร้างความสัมพันธ์ที่เป็นจริงเป็นจังและเป็นไปอย่างมีเป้าหมายเสียมากกว่า เพราะอินโทรเวิร์ตจะเชื่อในเรื่องความสัมพันธ์ระยะยาว
3. อินโทรเวิร์ตมักถูเบี่ยงเบนความสนใจได้ยาก
อินโทรเวิร์ตไม่ได้ตัดการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นเพื่อที่จะไม่รับรู้ข่าวสารใดๆ หรือเพื่อความสบายใจของตน แต่อินโทรเวิร์ตมักจะรู้ว่าอะไรควรให้ความสนใจและอะไรควรหลีกเลี่ยงเสียมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอินโทรเวิร์ตมักไม่ค่อยมีความกระวนกระวายในการทำงาน และสิ่งสำคัญคือพวกเขามักจะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการทำงานและให้ความสนใจต่อความต้องการของลูกทีมมากกว่าการไปเสียเวลาตกตะลึงกับงานของผู้อื่น
4 .อินโทรเวิร์ตจะแก้ปัญหาอย่างถี่ถ้วนมากกว่าการพยายามเร่งรีบแก้ปัญหาให้จบไป
อินโทรเวิร์ตมักไม่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วเกินไป เพราะพวกขามักจะมีความคิดที่ซับซ้อนและมักเชื่องโยงกับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นเมื่อเวลาเกิดปัญหาในการทำงานขึ้น อินโทรเวิร์ตจะไม่รีบเร่งแก้ปัญหาหรือพยายามหาข้อดีอย่างอื่นมาปกปิด แต่สิ่งที่อินโทรเวิร์ตทำคือ ค่อยๆ คิดอย่างถี่ถ้วนและค่อยๆ อุดรูรั่วของปัญหานั้นไปทีละรู สิ่งเหล่านี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า อินโทรเวิร์ตนั้นมีกระบวนการคิดที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์
Source : Inc-asean
