
คงไม่มีใครอยากแก่เร็วหรอก จริงไหม? แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าความเครียดและความกลัวจะทำให้คุณแก่เร็วขึ้น? ลองใช้ 7 วิธีนี้เพื่อช่วยลดความเครียดลงสักนิดดีกว่า
1. ปล่อยวางเรื่องต่างๆ ทิ้งไป
คุณต้องลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง หลายคนมักเสียเวลาไปกับการรู้สึกผิดที่ไม่สามารถรักษาสมดุลชีวิตได้ดีพอ แต่เชื่อไหมว่าความจริงแล้ว คุณจะไม่รู้สึกว่าชีวิตลงตัวได้สักทีหรอก ตราบใดที่คุณยังมีเป้าหมายและความฝันอยู่ในใจ นั่นก็เพราะว่าคุณยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องลงมือทำ ต้องเรียนรู้ และต้องบรรลุให้ได้ยังไงล่ะ ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่ไม่เป็นดังหวังจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาคิดมากหรือกังวลจนเกินไป
2. ตระหนักไว้ว่า แค่ทำให้ ‘ดี’ ก็เพียงพอแล้ว
เลิกเสียเวลาไปกับการทำทุกอย่างให้เพอร์เฟ็กต์สักที ไม่ว่าจะเป็นการเสนองาน หรือกระทั่งการหาของขวัญให้ลูกหลาน หรือทำความสะอาดของบ้านก็ตามที การทำให้ดีได้สัก 80% นั้นก็นับว่าเพียงพอแล้ว เพื่อที่จะได้มีเวลาไปทำงานอย่างอื่นกันต่อไป เพราะไม่อย่างนั้นเวลาในชีวิตของคุณคงจะสูญเปล่าไปกับการพยายามทำมันเต็มร้อย…แต่ก็ไม่เต็มร้อยสักทีนั่นเอง
3. จะงีบหรือจะแพ้
คนบ้าคลั่งทำงานมักคิดว่า “ฉันจะหลับเมื่อฉันตายเท่านั้น” แต่ประเด็นคือ การไม่หลับนั่นแหละที่จะทำให้คุณตายไม่ช้าก็เร็วนี้แน่นอน ความเหนื่อยล้าไม่ใช่ตราของเกียรติยศ หากไม่นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม คุณก็ทำประโยชน์อะไรให้ตัวเองและคนอื่นรอบข้างได้ไม่เต็มที่เช่นกัน
การนอนดึกเพื่อที่จะทำงานให้เสร็จหรือชอบทำอะไรจนนอนดึกๆดื่นๆ มักทำให้คุณสูญเสียมากกว่าเรื่องสุขภาพ เพราะมันอาจทำให้คุณหงุดหงิดง่าย ขี้หลงขี้ลืม เจ็บป่วย มีการตัดสินใจแย่ลง และมักจะทำผิดพลาดบ่อยครั้ง จนไปถึง น้ำหนักเพิ่มขึ้นเลยทีเดียว
4. แค่ลดเวลาเดินทาง ก็ลดเครียดได้
หากต้องเลือกหมอ หมอฟัน หรือช่างตัดผมคนใหม่ ก็ให้หาคนที่อยู่ใกล้บ้านของคุณที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะผลพลอยได้ก็คือ คุณจะได้ประหยัดเวลาและน้ำมันไปได้มาก เช่นเดียวกันกับการเลือกกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับคนในครอบครัว คุณก็ควรเลือกที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนใกล้ๆ ส่วนพวกโรงเรียน สโมสรฟุตบอล กลุ่มเรียนพิเศษ อาจต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน เพราะฉะนั้นคุณควรคิดให้รอบคอบว่าสิ่งที่คุณเลือกนั้นคุ้มค่าต่อการเดินทางในช่วงเวลาที่รถติดหรือการตื่นแต่เช้าตรู่หรือไม่ เพราะหากไม่วางแผนและเลือกสรรการเดินทางอย่างชาญฉลาดล่ะก็ คุณอาจเสียเวลาและพลาดโอกาสมากมายจนเป็นเหตุให้เกิดความเครียดสะสมได้นั่นเอง
5. ปฏิเสธคนอื่น เพื่อตัวเราเองเสียบ้าง
คุณกำลังถูกขอร้องให้ร่วมงานสังคม จนไม่มีเวลาว่างให้คนในครอบครัวอยู่หรือเปล่า?
การปฏิเสธคนอื่นนั้นไม่ได้ทำให้คุณดูเป็นคนเห็นแก่ตัวหรอกถ้าคุณอยากให้เวลากับตัวเองบ้าง เพราะแม้ไม่มีคุณ กิจกรรม ปาร์ตี้ หรืองานต่างๆ ก็ยังดำเนินต่อไปได้ ให้ลองคิดว่าการหายไปนั้นจะทำให้ตัวคุณน่าสนใจและมีคุณค่าขึ้นเมื่อคุณปรากฏตัว
6. พักเครื่อง แล้วปล่อยวาง
วิธีที่ที่รวดเร็วที่สุดในการพักผ่อนคือการปิดมือถือ ทีวี คอมพิวเตอร์ และมีความสุขกับชีวิตที่ปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ มีบางคนที่มักรู้สึกกังวลไม่มีความสุขเมื่อไม่มีเวลาดูรายการสุดโปรด ไม่เอาน่า คุณจำเป็นต้องรู้จริงๆ หรือว่าใครจะถูกคัดออกจาก The Face หรือใครคือดารานักร้องภายใต้หน้ากาก Tha Mask Singer?
บางคนอาจบอกว่าการดูทีวีช่วยคลายเครียดได้ แต่เชื่อเถอะว่ามันยิ่งทำให้คุณนั้นติดเป็นนิสัยมากกว่า ทีวีนั้นทำให้คุณเฉื่อยชา และเมื่อรายการจบลง ความรู้สึกกดดันนั้นก็จะโผล่ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกันกับคอมพิวเตอร์ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องดีที่เราจะติดต่อเพื่อนเก่าๆ ผ่านเฟสบุ๊ก แต่คุณจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอว่าพวกเขากินอะไรเป็นอาหารเย็น
ดังนั้น แทนที่คุณจะติดอยู่แต่กับหน้าจอ ลองหยิบหนังสือที่คุณไม่เคยเปิด โทรหาเพื่อนสนิท ดื่มเครื่องดื่มสุดโปรด และมีความสุขกับวันดีๆ ของคุณดีกว่านะ
7. เปิดใจรับความยุ่งเหยิงเสียบ้าง
คนเจ้าระเบียบมักคิดว่า ทุกๆ อย่างต้องมีที่ของมันและจะต้องอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่เสมอแม้แต่รีโมททีวีก็ต้องวางไว้ที่เดิม หมอนถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และเคานท์เตอร์ในครัวก็ต้องสะอาดไม่มีจานวางระเกะระกะ
แต่จงอ้าแขนรับความยุ่งเหยิงบ้าง เพราะมันมักมาพร้อมประสบการณ์ และยังหมายความว่าชีวิตของคุณกำลังถูกเติมเต็มด้วยสิ่งใหม่ๆ และสิ่งที่อยากทำมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าคุณก็ไม่ใช่มนุษย์โรบอทหรือคนที่จะต้องทำตามแบบแผนอย่างเคร่งครัดไปตลอดอยู่แล้ว ดังนั้น เปิดใจกับเรื่องต่างๆ ให้มากขึ้นล่ะ
เมื่อทุกอย่างนั้นดูเหมือนจะล้มเหลว จงจำไว้ว่าคุณนั้นโชคดีเกินกว่าที่จะกังวลหรือเครียดไปกับมัน เมื่อคุณรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังถาโถมเข้ามาในชีวิตล่ะก็ ให้ลองสูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ จากนั้นให้คิดถึงแต่เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณไว้ เชื่อเถอะว่ามันได้ผลทุกครั้งเลยทีเดียว
Source : Business Insider