10 วิธี “ยืนหยัดเพื่อตัวเอง” ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

14247

การฝึกยืนหยัดเพื่อตัวเองจะช่วยให้คุณควบคุมและออกแบบวิถีชีวิตตัวเองได้ ช่วยให้คุณเชื่อในพลังที่มี
อยู่ในตัว และกล้าพอจะไปถึงฝันที่คุณตั้งไว้ ยิ่งคุณรู้สึกเข้มแข็งเท่าไหร่ คุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นตามเท่านั้น 

มาฝึกเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นยืนเพื่อตัวเองไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตามด้วย 10 วิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้

1. เปิดเผยและเป็นตัวของตัวเอง

แม้บ่อยครั้งจะเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณสามารถแสดงความเป็นตัวเองอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาได้ มันจะทำให้คุณรู้สึกโล่งอกขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เพราะบ่อยครั้งที่เรามักเก็บงำความคิดและตัวตนของเราไว้ภายใต้รอยยิ้ม มันต้องการการฝึกฝนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นและเปิดเผยความรู้สึก ความคิดที่แท้จริงของคุณ ไม่โอนอ่อนตามคนอื่นและปิดกั้นตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นเช่นนี้ได้ คนรอบข้างจะยอมรับฟังคุณมากขึ้น

2. ก้าวเดินอย่างช้าๆ แต่เข้มแข็ง

ถ้าการมั่นใจและกล้าแสดงจุดยืนของตนนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ ให้เริ่มฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ในเรื่องเล็กๆ อย่าง การเดินอย่างมั่นใจ ด้วยการเชิดหน้าและอกผายไหล่ผึ่งก็ช่วยทำให้คุณดูมั่นใจขึ้นมาได้ นำความมั่นใจแบบนั้นมาใช้เมื่อต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น  ถ้าต่อไปหากคุณรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องโดนแซงคิวต่อรอซื้อกาแฟสตาร์บัคส์ ให้ลองบอกคนเหล่านั้นด้วยความสุภาพให้เขาถอยไปต่อคิว หรือถ้าคุณถูกโกงบิลค่าใช้จ่าย ก็ให้รีบโทรไปแย้งทันที

3. จงมีสติเมื่อถูกรังแก ไม่ใช้อารมณ์แก้ปัญหา

เมื่อคุณโตพอและมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น คุณก็จะต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญกับคนที่จ้องที่จะขัดขาคุณเป็นธรรมดา แน่นอนว่าคนที่มีนิสัยแบบนี้มีอยู่ทั่วไปและหาได้ไม่ยากเลย เพราะฉะนั้น หากมีคนจ้องจะรังแกคุณล่ะก็ คุณต้องควบคุมสติให้ดี อย่าสูญเสียความมั่นใจ ปล่อยให้ตัวเองสติหลุดจนโต้กลับไปแบบร้ายๆ แต่ก็อย่ายอมตกเป็นเหยื่อให้อีกฝ่ายรังแกเพื่อความบันเทิงเช่นกัน จงยึดมั่นในความถูกต้องและยืนหยัดเพื่อตัวเอง

4. ค้นหาสิ่งที่เป็นปัญหารบกวนคุณ

การที่เราใส่ใจความคิดเห็นจากคนรอบข้างมากเกินไปย่อมทำให้ตัวเครียดและเป็นกังวลอย่างมาก จงรวบรวมความกล้าเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่รบกวนใจคุณ แม้ว่าจะรู้สึกกลัว แต่มันจะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นแถมยังกำจัดปัญหาเหล่านั้นได้ด้วย พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีใครอ่านใจคุณได้ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่พูดมันออกมา ก็ไม่มีใครรู้ได้

5. อธิบายให้ชัดเจนโดยไม่ใช้อารมณ์

คนเรามักมีแนวโน้มจะคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก  คุณอาจมองว่าคุณกำลังปกป้องตัวเองจากคนที่มีความคิดผิดๆ อย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ใช้อารมณ์ในการตอบกลับไป หายใจลึกๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง และอธิบายถึงมุมมองความคิดของคุณให้พวกเขาเข้าใจ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเสียงหรือคำพูดที่กระแทกกระทั้นหรือเชิงกล่าวว่า อธิบายสิ่งที่ต้องการสื่อให้ชัดเจน และที่สำคัญคือต้องรู้จักฟังอีกฝ่ายด้วย นี่แหละจึงจะทำให้เกิดการสื่อสารที่แท้จริง

6. หมั่นฝึกฝน

เมื่อคุณเริ่มเข้าใจความหมายของการยืนขึ้นเพื่อตัวเองแล้ว นั่นคือเวลาที่คุณควรเริ่มฝึกออกปากแสดงความต้องการของตัวเองให้บ่อยเท่าที่จะเป็นได้ หากคุณไม่เห็นด้วยกับคำพูดของใคร หรือรู้สึกเหมือนถูกกดดันให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ก็ขอให้พูดมันออกมา มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการสร้างลักษณะนิสัยใหม่อาศัยเวลาประมาณ 66 วัน เพราะฉะนั้นลองฝึกนิสัยใหม่นี้สัก 2 เดือน แล้วคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ 

7. พูดด้วยเจตนาที่ดี 

เรามั่นใจว่าหลายคนต้องเคยประสบปัญหากับการอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ค่อยจะรักษาความสะอาดสักเท่าไหร่ และคุณเองอาจจะเคยโกรธคนเหล่านี้อยู่หลายครั้งด้วยซ้ำแต่เลือกที่จะเงียบไว้ สุดท้ายคุณก็ทำความสะอาดเองเองเงียบๆ ด้วยความโกรธ หรือไม่ก็พูดจาถากถางเพื่อนคุณ ลองกลับมาคิดดีๆ แล้วพูดกับเพื่อนคุณไปตรงๆ โดยไม่ต่อว่า ตามด้วยให้คำแนะนำง่ายๆ ที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เช่น “ถ้าคุณช่วยทำงานนี้ให้เสร็จอีกสักนิดนึงนะ คุณจะช่วยเบาแรงงานอื่นของเราไปได้มากเลยแหละ”

8. ให้เวลากับตัวเองบ้าง

เวลาเป็นสิ่งมีค่าและมีอย่างจำกัด แต่เรากลับไม่ได้ใช้ไปกับตัวเองเท่าที่ควรเพราะความรู้สึกกดดันจากภาระหน้าที่ต่างๆ เช่น เมื่อหัวหน้าของคุณบอกว่าโปรเจคนี้สำคัญมาก  อย่าให้สิ่งเหล่านั้นมากระทบวิถีชีวิตของคุณมากไป คุณสามารถออกแบบเวลาของตัวเองได้ เพราะฉะนั้น จงปฏิเสธงานบ้างตามเห็นสมควร หรือปลีกตัวออกมาจากผู้คนหรือสถานการณ์ที่รบกวนตารางเวลาส่วนตัวของคุณ

9. พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีใครจะลดคุณค่าในตัวคุณได้

คุณคือเจ้าของความรู้สึกและการกระทำของคุณเอง ความเชื่อ อารมณ์ และความคิดล้วนแต่เป็นของคุณ ไม่มีใครจะล่วงรู้ถึงความรู้สึกของคุณดีไปกว่าตัวคุณเอง และก็ไม่มีใครทำให้ความคิดเห็นของคุณไร้ค่าได้ ลักษณะเดียวกัน หากคุณเอาแต่จะโจมตีมุมมองความคิดของคนอื่น คุณก็จะไม่มีโอกาสได้เปิดใจพูดคุย กับพวกเขาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งใดๆ เลย

10. จินตนาการช่วยได้เสมอ

คุณไม่อาจกลายเป็นคนที่กล้ายืนขึ้นเพื่อตัวเองได้ภายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะสร้างความมั่นใจขึ้นมาได้  และในระหว่างนั้น คุณอาจใช้วิธีจินตนาการว่าตัวเองเป็นนักแสดงที่กำลังฝึกบทบาทใหม่เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจ สมมุติว่าคุณเป็นคนที่มั่นใจและกล้าคิดกล้าทำมากๆ พวกเขาจะจัดการปัญหาต่างๆ ยังไง? แม้บางทีคุณอาจจะไฟแรงมากจนเกินพอดี หรือไม่ก็พลิกกลับมาเป็นคนไม่กล้าทำอะไรเลยเสียอย่างนั้น แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับการฝึกปั่นจักรยานนั่นแหละ สุดท้ายแล้วคุณจะหาสมดุลได้เอง

Source : Success