“โจว ฉุนเฟย” จากหญิงสาวที่เลิกเรียนกลางคัน สู่ “มหาเศรษฐีหญิง” อันดับหนึ่งของโลก

5399

จากที่ Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ Theranos วัย 33 ปี เคยถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes ว่าเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่สร้างตัวจนร่ำรวยด้วยอายุน้อยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินสุทธิถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทว่าต่อมาบริษัท Theranos ก็ประสบปัญหาจนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงและถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายมากมาย ทำให้มูลค่าทางการตลาดปัจจุบันลดลงอย่างมหาศาล เป็นผลทำให้อันดับหนึ่งนี้ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป

แล้วใครล่ะที่เป็นมหาเศรษฐีหญิงที่อายุน้อยที่สุดของโลกคนถัดไป?

จากข้อมูล Bloomberg ที่ให้ไว้กับเว็บไซต์ Money กล่าวว่าตำแหน่งนี้ปัจจุบันตกเป็นของ ‘โจว ฉุนเฟย’ (Zhou Qunfei) หญิงชาวจีนวัย 47 ปี ที่เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Lens Technology ที่เป็นซัพพลายเออร์ให้กับบริษัท Apple ในการผลิตหน้าจอโทรศัพท์ยอดนิยมอย่าง iPhone นั่นเอง

เมื่อบริษัทของโจว ได้ทำการเปิดขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อปี 2015 จึงทำให้เธอกลายมาเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่สร้างตัวจนร่ำรวยด้วยอายุน้อยที่สุดของโลกคนถัดไปในทันที โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเธอที่ได้รับการประเมินเมื่อเร็วๆ นี้ มีมูลค่ามากกว่า 9 พันล้านดอลลาห์สหรัฐเลยทีเดียว

“เป็นไปได้ว่าในตอนนี้ เธอคือผู้หญิงที่สร้างตัวจนประสบความสำเร็จที่สุดของโลก” Rupert Hoogewerf บรรณาธิการของเว็บไซต์ที่ติดตามความมั่งคั่งของจีนอย่าง Hurun กล่าวกับ Australian Financial Review (AFR) เมื่อปี 2015 และกล่าวต่อว่า “นี่คือบุคคลที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อนในโลกนี้ ซึ่งนับว่าเธอคือเรื่องมหัศจรรย์ของปีนี้เลยก็ว่าได้”

โจวเป็นมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในบรรดาเศรษฐีหญิงที่สร้างธุรกิจด้วยตนเองในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก โดยเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ “อนุญาตให้ผู้หญิงเจริญขึ้น หลังจากที่ทุนนิยมเริ่มยึดครอง” Huang Yasheng ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ประกอบการของจีนประจำ MIT ได้กล่าวกับ the New York Times

โจวเติบโตขึ้นในฟาร์มและต้องออกจากโรงเรียนเมื่ออายุเพียง 16 ปี เพื่อเริ่มทำงานในโรงงานผลิตเลนส์ เมื่อเธออายุมากขึ้นและประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่จะเข้าสู่การเปิดตลาดเสรีของจีน โดยที่เธอมีเงินเพียงไม่กี่พันเหรียญตอนที่จะริเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองเมื่อปี 1993 โดยตอนนั้นเธออายุแค่ 22 ปีเท่านั้น เธอกล่าวกับ AFR ว่า “ในช่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของจีน ทำให้มีโอกาสมากมายสำหรับผู้ประกอบการ รวมไปถึงผู้ประกอบการผู้หญิงด้วย ซึ่งมันทำให้ฉันมีโอกาสที่จะสามารถพัฒนาธุรกิจของฉันได้”

Lens Technology

และในการให้สัมภาษณ์อีกครั้งกับ The Times เมื่อปี 2015 โจวก็ได้กล่าวว่า

“ในหมู่บ้านที่ฉันเติบโตขึ้นนั้น เด็กหญิงจำนวนมากไม่ได้เลือกว่าจะไปโรงเรียนหรือไม่ พวกเขาจะแต่งงานและใช้ตลอดทั้งชีวิตในหมู่บ้านแห่งนี้” และ“ฉันก็เลือกที่จะเข้าสู่วงการธุรกิจและไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกเส้นทางนี้”

ถึงแม้ธุรกิจของโจวจะเติบโตช้า แต่กลับโตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปี แล้ววันหนึ่งในปี 2003 โจวก็ได้รับโทรศัพท์จากทางบริษัทโมโตโรล่าที่ซึ่งกำลังมองหาบริษัทพัฒนาเลนส์แก้วป้องกันรอยขีดข่วนสำหรับโทรศัพท์ Razr V3 รุ่นใหม่

“ฉันได้รับโทรศัพท์ แล้วพวกเขาก็บอกว่า ‘ขอแค่คุณตอบมาว่า จะทำ หรือ ไม่ทำ ถ้าคุณตอบว่าทำ ทางเราจะช่วยคุณติดตั้งระบบต่าง ๆ ให้เอง’” และเธอจึงตอบกลับไปว่า “ตกลง ฉันทำ”

พอบริษัทเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จากจุดเล็ก ๆ จุดนั้นเอง ก็มีคำสั่งซื้อจากทั้งแบรนด์ HTC, Nokia, Samsung และ Apple ที่กำลังเปิดตัว iPhone เป็นเครื่องแรกในปี 2007 ด้วยเหตุนี้ บริษัทของโจวจึงสามารถลงทุนเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งว่าจ้างช่างเทคนิคที่เก่งๆ เข้ามาทำงานได้มากขึ้น และภายในห้าปีเธอก็มีโรงงานผลิตที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถึงสามแห่งเลยทีเดียว

Zhou Qunfei (周群飞)

ณ วันนี้ บริษัท Lens Technology ของโจวมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดย Bloomberg เผยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของโจวว่าอยู่ที่ประมาณ 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน AFR ก็กล่าวว่า Lens Technology มีโรงงานอย่างน้อย 32 แห่งใน 7 พื้นที่ รวมทั้งมีพนักงานกว่า 90,000 คนอีกด้วย

ส่วนทางด้านวิถีชีวิต โจวแต่งงานพร้อมทั้งมีบุตรสองคน (จากการแต่งงานครั้งก่อน) เธอทำงานวันละ 18 ชั่วโมง และพักอาศัยอยู่ในที่ทำงานของเธอเอง โดยที่เธอชอบสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Christian Dior และนอกจากนั้นแล้ว เธอก็ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งของอื่นใดเลย

Peng Mengwu รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Lens Technology เผยกับ AFK ว่า “โจวเป็นคนที่ค่อนข้างมีแรงผลักดันและมีความมุ่งมั่นในตนเองสูง” “เธอเคยทุกข์ยากและลำบากมากในวัยเด็ก และด้วยเหตุนี้เองที่เธอจึงจำเป็นต้องทำงานหนัก เพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของเธอ”

Source: Time