4 วิธีที่ช่วยดึง ‘ศักยภาพอันน่าทึ่ง’ ในตัวคุณออกมา

25754

 

“เราทุกคนล้วนมีเมล็ดพันธุ์แห่งศักยภาพอยู่ในตัว แต่น้อยคนนักที่จะดูแลจนมันเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้” — John C. Maxwell

คุณเคยดูฉากในการ์ตูนที่มีลูกบอลหิมะตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนยอดเนินเขาไหม? แน่นอนว่าสักพักมันจะค่อยๆ กลิ้งลงเนิน จากช้าๆ ก็เริ่มเร็วและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  กลิ้งทับทุกอย่างที่ขวางหน้า

มีผู้คนมากมายที่เปรียบเสมือนลูกบอลหิมะบนยอดเขานั้น พวกเขาเต็มไปด้วยศักยภาพอันน่าเหลือเชื่อ แต่บ่อยครั้งที่กลับอยู่นิ่งเฉย ไม่ยอมผลักดันตัวเองลงไปซักที ศักยภาพที่อยู่ภายในตัวพวกเขาจึงสูญเปล่าเพราะไม่ถูกดึงมาใช้แม้แต่น้อย

ดังนั้น เรามาดูกันว่า 4 วิธีที่จะช่วยดึงศักยภาพอันน่าทึ่งที่ซ่อนในตัวคุณออกมามีอะไรบ้าง

1. ตัดสินใจไปเลย อย่าเอาแต่ลังเล!

 

ยิ่งมีตัวเลือกมาก ก็ยิ่งเลือกยาก ภาวะนี้เรียกกันว่า Analysis-paralysis ซึ่งจะเกิดกับหลายๆ คนที่พอต้องเผชิญกับตัวเลือกมากมาย ก็จะชะงักไป ไม่สามารถตัดสินเลือกอะไรได้

ในตัวเราทุกคนล้วนมีเสียงที่คอยนำทางการตัดสินใจ จงสดับฟังและเชื่อในเสียงนั้น การเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างก็เหมือนการอาศัยแรงดุนให้ลูกบอลหิมะเริ่มกลิ้งลงเนินไปนั่นเอง

แม้ว่าสิ่งที่คุณเลือกอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่ถือว่าก้าวหน้ากว่าการเอาแต่นั่งจมจ่อมอยู่อย่างนั้น และจำไว้ว่าระหว่างการเดินทาง คุณก็ยังสามารถจะปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือจุดหมายปลายทางได้ทุกเมื่อ

2. อย่าเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

 

ในหนึ่งวัน ทุกคนมีเวลาทั้งหมด 1,440 นาทีเท่ากัน ดูเหมือนเหลือเฟือนะ แต่เราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเวลามันผ่านไปรวดเร็วขนาดไหน หยุดทำนั่นนิดนี่หน่อย เผลอๆ ก็เสียเวลาไปหลายสิบนาทีแล้ว ถ้าหากเราทุกคนมีเวลาในแต่ละวันเท่าๆ กันที่จะพัฒนาตนเอง แล้วเพราะอะไรบางคนจึงประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่นๆ ล่ะ?

สิ่งสำคัญนั่นก็คือ การวางแผน การทำโปรเจ็คต่างๆ มักมีความยาก และต้องอาศัยแรง เวลามากกว่าที่คิดไว้เสมอ ดังนั้นคุณควรจะวางแผนการบริหารเวลาให้รอบคอบและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ด้วย

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพทำให้คุณสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาได้เต็มที่ อุปสรรคในการทำงานก็น้อยลง หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้ผลดีก็คือ การถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่ทำจะไปช่วยเติมเต็มศักยภาพของคุณหรือไม่? คำถามนี้จะทำให้คุณรู้ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ใช้เวลาทำไปโดยไม่เกิดประโยชน์กับตัวเอง

3. รู้มูลค่าของสิ่งที่ต้องการ

จงจดจำไว้ว่าคนเรา ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ทุกครั้งที่ตัดสินใจเลือกอะไรก็ตาม คุณก็ต้องเสียสละบางสิ่งไปด้วยเสมอ เช่น บางครั้งคุณก็ต้องปฏิเสธโอกาสดีๆ มากมายเพื่อรอโอกาสที่ดีกว่า

คุณต้องยอมสูญเสียเพื่อจะได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นด้านมิตรภาพ ชีวิตคู่ การเลี้ยงลูก การทำงาน หรือกระทั่งงานอดิเรก นึกถึงสิ่งที่ต้องการมากที่สุดและตัดสินใจว่าสิ่งไหนบ้างที่คุณพร้อมใจยินยอมเสียสละทั้งเวลา เงิน โอกาส และความสัมพันธ์เพื่อให้มันไปสู่ความสำเร็จ การตัดสินใจจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากหลังจากได้พูดคุยกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมา

4. พัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหาของตัวเอง

ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังตัวแค่ไหน ก็ยังไม่วายที่ปัญหาจะเดินทางมาเจอคุณได้ ซึ่งการจัดการกับปัญหานี่แหละที่อาจจะสามารถพัฒนาคุณ หรืออาจจะลดทอนศักยภาพในตัวคุณก็ได้ หากคุณไม่เห็นมันเป็นโอกาสในการเติบโตทางความคิดและจุดประกายศักยภาพในตัวคุณ มันก็จะกลายเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางคุณแทนยังไงล่ะ

จงเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อย่าปล่อยให้มันมาหยุดยั้งไม่ให้คุณก้าวไปข้างหน้า และค้นหาประโยชน์จากปัญหาเหล่านั้นให้พบ ความล้มเหลวมอบบทเรียนให้คุณได้มากกว่าความสำเร็จเสียอีกนะ

มาเริ่มกันเถอะ!

เรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจของศักยภาพในตัวมนุษย์คือมันสามารถเพิ่มพูนขึ้นได้ด้วยตัวของมันเองขอเพียงเริ่มต้น เหมือนกับที่ต้องอาศัยแรงผลักในตอนต้นเพื่อให้ลูกบอลหิมะกลิ้งลงเนินมาเรื่อยๆ ได้ด้วยพลังงานต่อเนื่องจากการเคลื่อนไหว

ลองนึกถึงผู้คนที่คุณเคารพนับถือดูสิ อะไรที่ทำให้คุณชื่นชมพวกเขา? บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่าตนเองมีศักยภาพในตัวอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ผู้คนที่มีพลังงานแบบนี้มักจะดึงดูดให้คนอยากจะเข้าใกล้และเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่พวกเขาทำ

ดังนั้นแล้ว ในวันนี้คุณเองก็เลือกได้เช่นกันว่าจะนั่งอยู่เฉยๆ บนยอดเขาเอาแต่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่อาจทำได้ หรือ จะผลักตัวเองให้กลิ้งลงยอดเขานั้นและจัดการกับทุกๆ อุปสรรคที่ขวางทางข้างหน้าดีล่ะ?

Source: success