วิทยาศาสตร์เผย “ทำสมาธิติดต่อกัน 8 สัปดาห์” ช่วยพัฒนาสมองให้ดีกว่าเดิม

8575

หลายปีมานี้เหล่าผู้ประกอบต่างพากันหันมาฝึกทำสมาธิกันมากขึ้น เพราะการฝึกทำสมาธินั้นทั้งช่วยให้สมองทำงานได้รวดเร็วขึ้นและตัดสินใจได้ดีขึ้นด้วย ในเมื่อรู้ข้อดีของการทำสมาธิอย่างนี้แล้ว แล้วทำไมคุณถึงยังไม่เริ่มฝึกสักทีล่ะ คุณอาจจะคิดว่า “มันยากนะ แถมต้องใช้ความพยายามสูง” หรือ “มันต้องใช้เวลาเป็นปีๆ เลยนะ…กว่าจะเห็นผล” ถ้าเป็นเพราะอย่างนั้นล่ะก็ ผลวิจัยล่าสุดสามารถทำให้คุณสบายใจขึ้นได้แน่นอน เพราะงานที่วิจัยที่ว่านั้นได้ชี้ให้เห็นว่า การฝึกสติแบบทั่วไปสามารถส่งผลต่อสมองได้อย่างลึกซึ้ง ภายในระยะเวลาเพียง 8 สัปดาห์!  

แค่เพียง 2 เดือน สมองก็ทำงานได้ดีขึ้นได้ จริงหรือ?

งานวิจัยชิ้นใหม่ที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Brain and Cognition และเว็บบล็อกของ British Psychological Society Research Digest  ผู้วิจัยได้ศึกษาจากผลการวิจัยอื่นๆ จำนวน 30 ชิ้นที่ได้ใช้วิธี การสแกนสมองแบบ MRI เพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลงจากการทำสมาธิเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ซึ่งพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองขึ้น ทั้งในด้านระดับของการทำงาน ด้านปริมาณ และด้านความเชื่อมโยง บริเวณ cortex กลีบหน้าผากส่วนหน้า (ส่วนที่สัมพันธ์กับการตัดสินใจอย่างมีสติสัมปชัญญะและการกำหนดอารมณ์ความรู้สึก) ส่วน Insula (ส่วนที่แสดงถึงสภาวะภายในของร่างกายต่อสิ่งต่างๆ) ส่วน cingulate cortex (การตัดสินใจ) ส่วน hippocampus (ความจำ) และสุดท้ายนั่นก็คือ amygdala (อารมณ์)

โดยสรุปแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดนั้นมีอะไรบ้างล่ะ?

ทาง British Psychological Society Research Digest รายงานว่า “ทางทีมวิจัยของ Gotink เผยว่า การเปลี่ยนแปลงต่อสมองที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มีความสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าการฝึกสติช่วยให้สมองควบคุมการแสดงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี”

แน่นอนว่าการตีความการเปลี่ยนแปลงของสมองไปในทางใดทางหนึ่งอย่างสุดโต่งก็มักจะเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียงกันในทางวิทยาศาสตร์อยู่เสมอ แต่ผลวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการทำสมาธิระยะเวลาเพียง 2 เดือนนั้น นับว่าเพียงพอแล้วที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงสมองของคุณในด้านต่างๆ ช่วยให้มีสมาธิดีขึ้นได้ ทั้งยังช่วยให้สามารถทำการไตร่ตรอง ตัดสินใจ และควบคุมอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

Source: Inc