
บ่อยครั้งที่เราพบเห็นเรื่องราวความสำเร็จชั่วข้ามคืนของบริษัทที่แทบไม่เคยได้ยินชื่อ แต่กลับสามารถตรึงความสนใจของผู้คนได้อย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Facebook, Pandora, Uber, Walmart, Snapchat, Airbnb, Virgin และ SpaceX
แต่แท้จริงแล้ว ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน คนเหล่านี้ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจหลายปี พวกเขาต้องทำงานกันมากกว่า 18 ชั่วโมงต่อวันและ 7 วันต่อสัปดาห์ ต้องเอาชนะปัญหาต่างๆ ทั้งการถูกปฏิเสธจากแหล่งทุน แผนธุรกิจที่ไม่ได้รับการเชื่อถือ และบ่อยครั้งก็เผชิญหน้ากับความล้มเหลว
“ทำงานหนักสิบปี เพื่อความสำเร็จชั่วข้ามคืน” เป็นคำพูดเสียดสีที่มักได้ยินจากคนที่ประสบความสำเร็จพูดกัน พวกเขาทำงานหนักกันหลายสิบปีหรืออาจจะมากกว่านั้นเพื่อจะสร้างบริษัทที่ให้ผลสำเร็จในตอนท้าย ราวกับว่าสิ่งนั้นเพิ่งเกิดขึ้น “เพียงชั่วข้ามคืน” และคนส่วนใหญ่ก็จะเห็นเฉพาะความยิ่งใหญ่ของความสำเร็จเหล่านั้น แต่กลับมองข้ามเรื่องราวเบื้องหลังของความสำเร็จ กว่าที่พวกเขาจะมาถึงจุดนี้ได้พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง?! และเรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของการฟันฝ่าอุปสรรคของบริษัทที่เราควรได้เรียนรู้ก่อนจะ “ประสบความสำเร็จชั่วข้ามคืน” แบบพวกเขา
1. Walmart
เบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ วอล มาร์ต (Walmart) ที่หลายคนอาจไม่ทราบว่าเกิดจากการที่ แซม และบัด วอลตัน (Sam and Bud Walton) สองพี่น้องผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ ได้ทุ่มหมดหน้าตักถึงขนาดนำบ้านไปจำนองเพื่อตั้งต้นธุรกิจใหม่ ทั้งที่พวกเขามีธุรกิจร้านขายของปลีกราคาถูกที่ประสบความสำเร็จหลายสาขาอยู่แล้ว นอกจากนี้ วอลตันก็เคยถูกปฏิเสธการกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจในตอนแรกด้วยซ้ำ! แต่ท้ายที่สุดธนาคารก็เชื่อมั่นว่าธุรกิจ วอล มาร์ต สามารถเติบโตได้ จึงอนุมัติปล่อยเงินลงทุนให้ ปัจจุบัน วอล มาร์ต ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ความสำเร็จอาจดูราวกับว่าเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เบื้องหลังนั้น สองพี่น้องวอลตันต้องทำงานหนักหลายปีกว่าจะได้สิ่งนี้มา
2. Space X และ Tesla / Virgin Records และ Virgin Atlantic

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เคยก่อตั้งมาแล้วหลายบริษัท แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นบริษัท SpaceX และ Tesla ส่วน ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ก็เป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ก่อตั้ง Virgin Records และ Virgin Atlantic โดยทั้งสองเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ประสบการณ์หลายปีที่บริษัทของพวกเขาได้เจอเรื่องท้าทายนั้น ราวกับต้องกลืนเข็มกลืนตะปูกันเลยทีเดียว เพราะบริษัทจะอยู่รอดหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่แทบทำนายไม่ได้
บริษัทของมัสก์และบริษัทของแบรนสันนั้น ทั้งสองบริษัทเคยตกอยู่ในสถานการณ์ร่อแร่จนแทบกลับมาตั้งตัวไม่ได้ เคยถึงกับจะต้องปิดตัวลงภายในเวลา 24 ชั่วโมงมาแล้วด้วย เนื่องจากไม่มีเงินและไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ที่ไหนได้ ฉะนั้นเวลาที่คุณเห็นความสำเร็จระดับโลกของพวกเขาในตอนนี้ คุณอาจจะนึกไม่ถึงว่าพวกเขาต้องเจอกับปัญหามาแล้วสารพัดแบบ ก่อนที่จะจับอะไรเป็นเงินเป็นทองได้อย่างในทุกวันนี้ โดยพวกเขาเคยได้เข้าใกล้ความล้มเหลวที่สุดมาแล้ว ก่อนจะฝืนทนจนผ่านปัญหาไปได้ และกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จอันโด่งดังที่ต้องแลกมาด้วยเวลาหลายปีในการอุทิศตนทำงานอย่างหนัก
3. Pandora

ทิม เวสเตอร์เกรน (Tim Westergren) ผู้ก่อตั้ง Pandora เคยถูกปฏิเสธจากการขอกู้เงินกว่า 300 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าเขามีความทุ่มเทแน่วแน่กับความคิดตนเองมากแค่ไหน เขายืนกรานในความคิดของตนเองในขณะที่นักลงทุนเก่งๆ คนอื่นอย่างน้อย 300 คน (โดยประมาณ) กลับตัดสินใจผิดพลาดไป เรื่องนี้จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่พิสูจน์ว่าบางครั้งความคิดตามแบบแผนอย่างเดียวก็เป็นเรื่องที่ผิดได้
หลายคนนั้นมีไอเดียดีๆ แต่กลับถอดใจเพียงเพราะถูกปฏิเสธแค่ครั้งเดียว หากคุณกำลังอยู่ในช่วงการขายหรือต้องพูดเสนอสินค้าบริการ หรือกระทั่งก่อตั้งบริษัท คุณอาจจะต้องได้ยินคำปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ขอให้คุณเคยชินกับมันเสียเถอะ การได้ยินคำว่า “ไม่” ไม่ใช่เหตุผลที่คุณต้องล้มเลิก เพราะคุณตัดสินใจอยู่บนฐานความเชื่อของตนเอง ไม่ใช่ผู้อื่น
สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น มันอาจจะต้องใช้เวลานับ 10 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิด ฉะนั้นขอให้คุณตั้งใจและอดทนไว้ ความสำเร็จอันหอมหวานเหล่านี้อยู่ไม่ไกลเกินฝันนักหรอก
Source : Entrepreneur