9 สิ่งที่ไม่ควรทำในตอนเช้า เพราะอาจลดประสิทธิภาพในการทำงานตลอดวัน

5673

เชื่อหรือไม่ว่า เวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนการทำงาน อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานในอีก 8 ชั่วโมงให้หลังได้

ถ้าหากว่าคุณมาถึงที่ทำงานสาย หรือมัววุ่นวายกับการเช็คอีเมลที่แน่นขนัดแล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงมากที่คุณจะขาดสมาธิในการทำงานตลอดทั้งวัน

จากงานวิจัยของ Yu Han และ Shana Lebowitz พบว่า มีคุณลักษณะ 9 ประการที่ไม่ควรทำใน 10 นาทีแรกของเช้าวันทำงาน ไม่งั้นอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลงตลอดทั้งวัน ไปดูกันเลยว่าลักษณะที่ควรเลี่ยงเพื่อขจัดความเสี่ยงต่อการล้มเหลวนั้นมีอะไรบ้าง?

1. เข้างานสาย

หนังสือพิมพ์ออนไลน์ The Huffington Post ได้กล่าวถึงงานวิจัยล่าสุดที่ค้นพบว่า บรรดาเจ้านายมักจะมองลูกจ้างที่เข้างานสายว่าเป็นพวกขาดจิตสำนึก  และจบลงด้วยการประเมินค่าการทำงานของพวกเขาต่ำ แม้ว่าลูกจ้างเหล่านั้นจะยอมเลิกงานช้าเพื่อชดเชยเวลาที่มาสายไปก็ตาม

แม้จะฟังดูไม่ยุติธรรมนัก แต่ยังไงมันก็คือความเป็นจริง ดังนั้นอย่ามัวรอช้า รีบไปให้ถึงที่ทำงานก่อนเวลาเข้างานจะดีกว่า

2. ไม่กล่าวทักทายเพื่อนร่วมงาน

เรียนรู้

คุณสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับตัวเองและที่ทำงานได้ เพียงแค่ใช้เวลาสักสองสามนาทีในการทักทายหรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานบ้าง

Lynn Taylor ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน และผู้เขียนหนังสือ Tame Your Terrible Office Tyrant: How to Manage Childish Boss Behavior and Thrive in Your Job.” ได้กล่าวไว้ว่า ถ้าหากคุณอยู่ในตำแหน่งของผู้นำ แต่กลับไม่คิดจะทักทายเพื่อนร่วมงานหรือลูกจ้างเลย ภาพลักษณ์ของคุณจะถูกมองในแง่ลบ

ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่ผู้จัดการ แต่การเก็บตัวเงียบก็อาจทำให้คุณดูเข้าถึงยากในสายตาเพื่อนร่วมงานได้เช่นกัน

3. ดื่มกาแฟ

ถ้าหากคุณเป็นคนประเภทที่กระดกกาแฟรวดเดียวหมดแก้วทันทีที่ตื่นนอนล่ะก็ มีโอกาสที่คุณจะดื่มเพิ่มอีกแก้วทันทีที่ถึงที่ทำงานเช่นกัน

ทั้งนี้ มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่แนะนำว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดื่มกาแฟคือช่วงหลังจาก 9 โมงครึ่งเป็นต้นไป เพราะฮอร์โมนความเครียด Cortisol ที่ช่วยให้ร่างกายและสมองตื่นตัวจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วง 8 – 9 โมงเช้า หมายความว่า หากคุณดื่มกาแฟในช่วงก่อน 9 โมงเช้า ร่างกายจะผลิตฮอร์โมน Cortisol ได้น้อย แล้วหันมาพึ่งคาเฟอีนมากกว่าเดิม

4. ตอบทุกอีเมล์ในกล่องข้อความ

แอปเปิ้ล กาแฟ อีเมล์

เมื่อลองได้หย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว การไล่ตอบอีเมล์ที่ค้างคา มักเป็นอะไรที่ยั่วยวนชวนให้ทำเป็นอันดับแรก ๆ อยู่แล้ว

แต่ Michael Kerr นักพูดด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ You Can’t Be Serious! Putting Humor to Work” กลับเสนอว่า สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อถึงที่ทำงาน คือการกวาดสายตาดูอีเมล์ที่ได้รับผ่าน ๆ เพื่อจัดลำดับความสำคัญเอาไว้ โดยตอบเฉพาะข้อความที่สำคัญหรือเร่งด่วนก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับเมล์ที่สามารถตอบทีหลังได้นั่นเอง

Kerr ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Business Insider ว่า “การเช็คอีเมล์อาจเป็นงานที่ทำแล้วให้ความรู้สึกว่าได้ทำงานสำเร็จไปอย่างหนึ่งก็จริง แต่มันอาจทำให้คุณพลาดการลงมือทำงานที่สำคัญจริง ๆ ไปก็ได้”

5. ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่มีแผนการในหัว

แผนการ

Taylor กล่าวว่า ก่อนที่คุณจะลงมือทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าได้วางแผนการทำงานคร่าว ๆ ในวันนั้นเอาไว้แล้วหรือยัง ซึ่งรวมไปถึงการจดบันทึกรายการสิ่งที่ต้องทำตามลำดับความสำคัญก่อนหลังในแต่ละวัน หลังจากนั้นจึงค่อยทำตามตารางที่วางเอาไว้

การเช็คแผนการทำงานก็เพื่อดูว่ามีงานที่จะต้องเตรียมไหม จะต้องโทรหาใคร หรือมีประชุมที่ไหนหรือเปล่า เพราะถ้าไม่หมั่นเช็คตารางล่วงหน้า อาจเกิดเหตุการณ์ประเภทว่ากำลังเขียนงานอยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามีประชุมในอีกไม่กี่นาทีถัดไป

6. ทำงานที่ง่ายที่สุดก่อน

มีงานวิจัยบางชิ้นที่เสนอว่า กำลังและความตั้งใจของคุณมักจะลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น จึงเป็นการดีที่จะรีบทำงานชิ้นสำคัญให้เสร็จเสียก่อน

บางคนเรียกกลยุทธ์นี้ว่า “ยุทธการกินกบ” ซึ่งมีที่มาจากคำพูดโด่งดังของ Mark Twain ที่ว่า “จงกินกบเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า แล้วจะไม่เจออะไรแย่กว่านี้เข้ามาในวันนั้นอีกเลย” หมายถึง เมื่อเร่งกำจัดงานยาก ๆ ออกไปแล้ว วันนั้นทั้งวันก็จะเหลือแต่งานที่สบาย ๆ ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป

7. ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกัน

งาน

ในบางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่ามีพลังในการทำงานอย่างท่วมท้น จนทำให้สามารถทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ในคราวเดียว

มีบางงานวิจัยที่เสนอว่า การทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันสามารถทำให้คุณภาพของงานลดลงได้ ดังนั้น ถ้าหากคุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำงานสำคัญหลายชิ้นพร้อมกันล่ะก็ คุณภาพของงานที่ออกมาอาจไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น ควรหันมาให้ความสำคัญกับการทำงานให้เสร็จไปทีละชิ้นจะดีกว่า

8. จมอยู่กับความคิดแย่ๆ

คุณอาจโดนคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้เดินชนจนเกือบล้ม หรือไม่ก็มีปัญหากับคนรักในคืนก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามให้ประสบการณ์แย่ๆ ดังกล่าวนี้ มาทำให้สมาธิคุณไขว้เขวไปจากงานที่จำเป็นต้องทำเป็นอันขาด

Taylor แนะนำว่า คุณควรทำการ จัดสรรปันส่วนอารมณ์ให้ดีเสียก่อน นั่นคือ เก็บอารมณ์ความคิดขุ่นมัวใส่ ‘กล่อง’ แล้วแยกไว้ต่างหากก่อนเริ่มการทำงาน และถ้าหากเลี่ยงคิดถึงไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยไปเยี่ยมเยียนเปิดดูกล่องเหล่านั้นในภายหลัง

9. มีประชุม

meeting

การประชุมในตอนเช้าอาจเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรทางความคิดไปเปล่า ๆ ดังที่ Laura Vanderkam ผู้เขียนหนังสือ What the Most Successful People Do Before Breakfast” ได้กล่าวว่า ยามเช้าของแต่ละวันควรจะถูกจัดสรรไว้เพื่องานที่ต้องใช้สมาธิและความคิดเป็นพิเศษ อย่างเช่น งานเขียน เป็นต้น

 

Source : businessinsider