8 คุณสมบัติของการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

3002

ความหลงใหล แรงบันดาลใจ ความดื้อรั้น และ โชคอีกเล็กน้อย คือสิ่งที่บอกความแตกต่างระหว่างนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ไปไม่ถึงฝัน แต่อะไรกันเล่าที่ทำให้นักธุรกิจเหล่านั้นประสบความสำเร็จอย่างสูง? และนี่คือกิจวัตร 8 อย่างที่พวกเขาทำเป็นประจำ ไปดูกันเลย!

1. พวกเขาตื่นนอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

ออกกำลังกาย

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จรวมถึงเหล่าผู้นำองค์กรทั้งหลาย ล้วนตื่นนอนแต่เช้าตรู่ พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ตื่นเช้า แต่พวกเขาตื่นก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเสียอีก เหตุผลก็คือเพื่อที่จะได้มีเวลาตอบอีเมล์ อ่านข่าวสารต่างๆ รวมถึงออกกำลังกาย จากงานวิจัยพบว่าการตื่นเช้าทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และมีความสุขมากขึ้น 

แจ็ค ดอร์ซี่ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และคาร่า โกลดิน ผู้ก่อตั้ง Hint Water เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนประสบความสำเร็จที่มักตื่นนอนแต่เช้าตรู่ในทุกๆวัน

2. พวกเขาไม่กลัวที่จะแข่งกันกับคนอื่น

หมากรุก

ริชาร์ด แบรนด์สัน ผู้ก่อตั้ง Virgin Group เคยบอกไว้ว่า “ถ้าอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ คุณต้องอ้าแขนรับการแข่งขัน จงอย่ากลัวแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ คุณต้องสร้างสมดุลระหว่างการเคารพคู่แข่งของคุณ กับการคิดอยู่เสมอว่าต้องทำอย่างไรถึงจะชนะเขาได้”

นั่นคือคำเหตุผลว่าทำไมแบรนสันถึงได้ไปนั่งทานอาหารกลางวันกับคู่แข่งทางธุรกิจของเขา แบรนสันให้สัมภาษณ์กับนิตยสารวอลล์สตรีทไว้ว่า :

“ผมเชื่อมาตลอดว่าเราควรเป็นมิตรกับคู่แข่ง หลายปีที่แล้ว British Airways พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเขี่ยเราออกไปจากธุรกิจ หลังจากขึ้นศาลเสร็จ ผมก็โทรหา เซอร์ คอลิน มาแชลล์ เจ้าของ British Airways แล้วพูดว่า “คุณอยากจะมาทานอาหารกลางวันกับผมสักหน่อยไหม?” ผมเดาว่าเขาคงประหลาดใจสุดๆ ว่าผมกำลังทำบ้าอะไร แต่เรากลับมีมื้อกลางวันอันน่ายินดีที่บ้านของผมที่กรุงลอนดอน เรากลายเป็นเพื่อนกัน  แล้วก็เลิกกัดกันเสียที”

3. พวกเขาเลือกที่จะผ่อนคลายบ้าง โดยที่ไม่เป็นผลเสียกับงาน

playing-cards

เจ้าของธุรกิจต้องผ่อนคลายบ้างเป็นบางเวลา เติมพลังให้กับตัวเอง การพักไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง การผ่อนคลายยังช่วยให้สมองของเราคิดเรื่องใหม่ๆได้ แทนที่จะติดแหง็กอยู่กับปัญหา นั่นคือเหตุผลว่าทำไม บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ถึงใช้ช่วงเวลาพักกลางวันด้วยการเล่นไพ่บริดจ์

4. พวกเขาเรียนรู้ที่จะชดเชยจุดอ่อนของตัวเอง

แบร์รี่ คอนชี่ ผู้แต่งหนังสือ Strengths Based Leadership กล่าวไว้ว่า

ผู้นำเก่งๆ หลายคนที่เรารู้จักไม่ใช่คนที่จะเก่งไปเสียทุกอย่าง พวกเขาไม่ได้อยู่แนวหน้าเพียงเพราะเก่งกว่าคนอื่นในด้านการเป็นผู้นำ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขามีอะไรบางอย่างที่คนส่วนน้อยเท่านั้นจะมี พวกเขาไม่เพียงแต่รู้จุดแข็งของตัวเอง แต่รวมไปถึงจุดด้อยอีกด้วย และเขาก็สามารถหาผู้ช่วยที่สามารถทดแทนจุดด้อยของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

5. พวกเขาเป็นคนใจกว้าง

พูดคุย

คุณเคยสังเกตบ้างหรือเปล่าว่า เจ้าของธุรกิจทั้งหลายที่ดูเก่งกาจ มักเป็นคนที่ใจกว้างมาก พวกเขาไม่ได้เอาใจใส่แค่เฉพาะเรื่องเงิน แต่รวมไปถึงเรื่องเวลา การสร้างคอนเนคชั่น หรือแม้แต่การให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้คือขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยให้เราสามารถติดต่อกับคนอื่นๆได้มากมาย อีกทั้งยังช่วยในเรื่องธุรกิจได้มากกว่าที่เราคิดเสียอีก

6. พวกเขามักจะพูดคำว่า “ไม่”

เจ้าของธุรกิจต้องอัธยาศัยดีต่อเหล่าตัวแทนขาย และลูกค้า แต่มันไม่จำเป็นเลยที่เขาจะต้องตอบรับคนอื่นไปเสียทุกอย่าง ดั่งคำพูดอันโด่งดังของ วอเรน บัฟเฟตท์ ประธานและซีอีโอของ Berkshire Hathaway “ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ กับคนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดก็คือ คนที่ที่ประสบความสำเร็จมากกว่ามักจะ “ปฏิเสธ” สิ่งต่างๆ แทบทั้งหมด”

7. พวกเขาไม่ยอมเสียเวลาไปกับการตัดสินใจเล็กๆน้อยๆ

เจ้าของธุรกิจรู้วิธีที่จะบริหารอารมณ์และจิตใจตลอดทั้งวัน พวกเขาไม่เสียเวลากับเรื่องเล็กน้อย หรือการตัดสินใจที่ไม่ค่อยสำคัญ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตู้เสื้อผ้าของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook จึงมีเพียงเสื้อยืดและเสื้อฮู้ดสีเทา และก็เป็นเหตุผลว่าทำไม ทิม เฟอร์ริส ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The 4-Hour Workweek ถึงทานอาหารเช้าเมนูเดิมๆ ทุกเช้า

8. พวกเขาใช้ชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจของตัวเอง

ร้านกาแฟ

John Jantsch ผู้ก่อตั้ง Duct Tape Marketing กล่าวว่า “คุณสามารถทำธุรกิจของคุณเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น แต่เมื่อเราเป็นสิ่งมีชีวิตเราก็ควรจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง ถ้าคุณอยากเติบโต เรียนรู้ และเข้าใจ คุณก็ควรจะออกจากออฟฟิศ ไปประชุม นั่งกินกาแฟกับลูกค้า คลุกคลีกับคนแปลกหน้าบ้าง นั่นคือวิธีที่จะหาคู่ค้าใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ รวมถึงโอกาสที่จะเรียนรู้และเติบโต

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติของการเป็นเจ้าธุรกิจที่แสนเก่งกาจ และแน่นอนว่าเราก็สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาตนเองให้เป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน!