
การใช้ชีวิตให้มีความหมายมันเป็นอย่างไรกันนะ?
มันคือชีวิตที่คุณเลือกเองได้ ได้ใช้ชีวิตแบบที่น่าตื่นเต้นโลดโผนแค่ไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทองอยู่เต็มบัญชี แม้จะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่ชีวิตเป็นของคุณเอง จงเลือกทำในสิ่งที่คุณต้องการ ทำในสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข เพราะชีวิตที่มีความหมายโดยแท้ ก็คือ ชีวิตที่มีความสุข นี่เอง และต่อไปนี้คือ 7 วิธีเด็ดที่ทำให้คุณได้มีชีวิตที่มีความหมายมากกว่าที่เคย
1. เข้าใจตัวเอง
ค้นหาสิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้คุณอยากตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อะไรคือสิ่งที่คุณสนใจจริงๆ กันแน่ และอะไรคือสิ่งที่คุณรัก หากคุณยังหาไม่พบ ก็ไม่เสียหายที่คุณจะใช้เวลาอีกสักหน่อยเพื่อค้นหาตัวเอง ง่ายๆ เลย ลองมองไปรอบตัวคุณดูว่าอะไรที่ทำให้คุณมีความสุข อะไรที่คุณคิดว่าอยากทำมากกว่าการนอนเฉยๆ อยู่บนเตียง และอะไรที่คุณจะรู้สึกพิเศษหากได้ทำ เมื่อหาพบแล้วก็จงทำสิ่งเหล่านั้นให้สุดความสามารถของคุณ
2. ใช้สิ่งที่คุณรักเพื่อทำเงิน
หลังจากที่ค้นหาตัวเองพบแล้ว…ว่าอะไรในชีวิตที่คุณอยากทำ จะมีประโยชน์อะไร หากคุณไม่มีเวลาให้มัน ดังนั้นคุณต้องจัดสรรตารางชีวิตตัวเองเสียใหม่ว่าเวลาไหนที่คุณจะสามารถทำในสิ่งที่คุณรักได้อย่างเต็มที่ อาจเป็นช่วงเช้าในแต่ละวันหรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากนั้นก็ใช้สิ่งที่คุณรักนี่แหละทำเงินให้กับคุณ เป้าหมายคือการได้ทำงานจากสิ่งที่คุณรัก เพราะคุณจะไม่รู้สึกเลยแม้แต่วินาทีเดียวว่าคุณกำลังทำงานอยู่
3. การเรียนรู้คือการลงทุนที่คุ้มค่า
หากคุณไม่อยากใช้ชีวิตแบบธรรมดา ในทุกๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมา คุณต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเอง จงหาอะไรที่คุณไม่มีความรู้ความเข้าใจในตอนต้นปี คุณควรตั้งเป้าทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้นให้ได้ภายในสิ้นปี ท้าทายตัวคุณเองด้วยการทำสิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะทำได้ให้สำเร็จดูสิ ชีวิตคุณจะมีความหมายขึ้นมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ดังนั้นจงทำตัวเองให้พร้อมสำหรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ
4. คาดหวังให้สูงเข้าไว้
การคาดหวังสูงไม่ใช่เรื่องผิด กลับกัน มันถือว่าเป็นกุญแจสำคัญไปสู่การมีชีวิตที่มีความหมายมากกว่าเดิมเลยก็ว่าได้ อย่าดูถูกตัวเองว่าคุณไม่คู่ควรกับเรื่องดีๆ ในชีวิต หรือแม้แต่มัวแต่คิดว่าอะไรก็ไม่เป็นไปดั่งใจคุณเลยสักอย่าง แต่สิ่งที่คุณควรทำคือ การฝัน และตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและกะตือรือล้นที่จะลงมือทำ จงใช้แรงบันดาลใจนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้าและพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
5. มีอิสระทางการเงิน
คนที่มีอิสระทางการเงินต่างจากคนรวย เพราะพวกเขาสามารถใช้ชีวิตโดยไม่มีปัจจัยเรื่องเงินเป็นภาระ พวกเขาไม่มีหนี้บัตรเครดิต และแน่นอนพวกเขาไม่รู้จักคำว่าชักหน้าไม่ถึงหลังในแต่ละเดือน อันที่จริงหากคุณมองไปรอบๆ ตัว คุณอาจเห็นคนรวยมากมายที่เป็นเจ้าของรถสปอร์ตราคาแพง มีคฤหาสน์สุดหรูแต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังทรัพย์สินพวกนั้นอาจแลกมาด้วยการเป็นหนี้กองโตก็ได้ สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่การเป็นคนรวยแต่มีหนี้ แต่ควรเป็นคนไม่มีเจ้าหนี้ หรือเอาแต่พะวงเรื่องการหาเงินมาใช้หนี้ แม้ก่อนหน้านี้ เราได้แนะนำให้คุณฝันให้ไกล แต่คุณต้องมีแผนสำรองสำหรับสิ่งไม่คาดฝันด้วย และไม่ผิดที่คุณอยากให้ทุกอย่างออกมาสำเร็จตามที่วางแผนไว้แต่คุณต้องจำไว้สิ่งหนึ่งว่า ชีวิตของคนเรานั้นไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
6. ให้ความสำคัญกับความล้มเหลวและความสำเร็จเท่าๆ กัน
ความเสี่ยงเป็นของคู่กันกับชีวิตคนเราเสมอมา กล่าวคือ หากคุณไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต คุณก็ล้มเหลว ดังกลอนวรรคหนึ่งของ รัดยาร์ด คิปลิง (Rudyard Kipling) นักเขียนชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย ที่กล่าวว่า “ถ้าเธอปฏิบัติต่อชัยชนะและหายนะอย่างเท่าเทียม… เธอจะกลายเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง”
บางครั้งคุณอาจคิดว่าอะไรๆ กำลังไปได้สวย แต่มันอาจไม่ใช่แบบนั้น กลับกันในบางครั้งคุณอาจคิดว่าทุกสิ่งช่างดูเลวร้ายสำหรับคุณไปซะหมด แต่ใครจะรู้ว่าในเรื่องร้ายๆ ก็อาจมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ การจะผ่านสิ่งที่ไม่เป็นดั่งใจไปได้นั้นย่อมขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะแกร่งพอไหม ทั้งในเรื่องการเงิน สุขภาพ อารมณ์และจิตใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
7. ทำงานให้เต็มที่
อาร์ต วิลเลียมส์ (Art Williams) ผู้ก่อตั้ง Primerica เคยกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “A Little Bit More” ซึ่งหัวข้อดังกล่าวเขาได้พูดถึงข้อแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและคนที่ประสบความสำเร็จ ว่า คนที่ประสบความสำเร็จมักทำสิ่งต่างๆ อย่างสุดความสามารถและทำอย่างเต็มที่ เพราะคุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จเลยหากคุณคิดเพียงทำตามหน้าที่ให้ผ่านไปวันๆ แต่คุณต้องทำให้มากกว่าคำว่าหน้าที่ และหากความพยายามครั้งแรกช่วยให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จ ความพยายามครั้งต่อๆ ไปย่อมทำให้คุณประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาได้ไม่ยาก
ความสำเร็จในชีวิตไม่ได้ได้มาเพียงชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลา ความสำเร็จที่ได้มาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมีอยู่แค่ในนิยายเท่านั้น ดังนั้นหากคุณจะทำอะไรขอให้คุณทำให้เต็มที่ ยอมลำบากสักหน่อยเพื่อผลลัพธ์ที่หอมหวาน หากคุณทำได้ตามนี้ เรารับรองได้เลยว่า ชีวิตที่มีความหมายมากกว่าเดิมย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
Source : Success