7 แนวทางสร้าง “ความสุขและสนุกกับชีวิต” โดยที่ไม่ต้องใช้เงินมากมาย

6956

ดูเหมือนว่า ‘เงิน’ มักจะเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงจังหวะใดของชีวิต อาจจะเป็นช่วงที่เรายากลำบากหรืออาจจะเป็นแค่ช่วงที่เรากำลังพยายามลดรายจ่ายอยู่ก็ตาม  เราทุกคนก็ต่างก็มีปัญหาเรื่องเงินของตัวเอง ความต้องการเงินของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่เคยพอ แต่คุณจะหาความสุขได้อย่างไรล่ะ

ถ้าเกิดทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้นที่แลกมา?

Michelle McGagh ตัดสินใจที่จะไม่ใช้จ่ายเงินตลอดทั้งปี เพื่อทดสอบการประหยัดเงิน ซึ่งเธอได้เขียนเรื่องดังกล่าวลงในหนังสือ The No Spend Year : How You Can Spend Less and Live More.  แต่แน่นอนว่าเธอยังจำเป็นต้องใช้จ่ายไปกับสิ่งที่จำเป็นบ้าง เช่น ค่าบ้าน, ค่าอาหาร, สาธารณูปโภคและอุปกรณ์ในห้องน้ำที่จำเป็น แต่ในเวลาหนึ่งปีนั้น McGagh ตั้งกฏให้กับตัวเอง ว่าเธอจะต้องไม่ใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น เที่ยววันหยุดพักผ่อน การออกไปดื่มกับเพื่อน การรทานอาหารนอกบ้าน และรวมถึงค่าตั๋วหนังและคอนเสิร์ตต่างๆ ด้วย ผลปรากฏว่า McGagh ทำได้สำเร็จ เธอใช้ชีวิตหนึ่งปีโดยไม่ใช้จ่ายไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือย และนั่นก็ช่วยประหยัดเงินของเธอได้มากกว่า 22,000 ยูโร (หรือมากกว่า 860,000 บาท)

บางทีการใช้ชีวิตหนึ่งปีโดยไม่ใช้จ่ายอะไรเลย ก็อาจจะดูทรมานตัวเองเกินไปสำหรับคุณ แต่เราก็มี 7 แนวทางง่ายๆ ที่คุณสามารถหาความสุขและความสนุกได้โดยไม่ใช้ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก แถมช่วยให้คุณประหยัดได้มากขึ้นอีกด้วย

1. อ่านเข้าไว้

อาจไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือก็ได้ แม้ว่าหนังสือเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มสร้างความสนุก แต่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสนุกได้เช่นเดียวกัน เชื่อไหมว่าในพื้นที่ท้องถื่นของเราล้วนมีกิจกรรมมากมายที่โปรโมทเชิญชวนเราให้ไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรือเทศกาลจนถึงการบรรยายต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วงานเหล่านี้ “ฟรี” แต่ถึงแม้คุณอาจจะไม่รู้สึกสนุกกับกิจกรรมเหล่านี้มากนัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณได้ก้าวออกจากอะไรเดิมๆ และได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้นจริงไหม?

2. จัดกิจกรรมเล็กๆ ที่บ้านคุณเอง

ถ้าคุณไม่รู้สึกอยากออกไปข้างนอก ลองชวนให้เพื่อนๆ มาหาคุณที่บ้านดูสิ จัดช่วงเวลาว่างให้กลายเป็นช่วงเวลาของการพบปะสังสรรค์กันที่บ้านของคุณเอง และอาจให้เพื่อนๆ ทุกคนนำของกินหรือสิ่งที่สนใจติดไม้ติดมือกันมาด้วย ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างการ ดูหนังหรือดูซีรีย์ เล่นเกม หรือเพียงแค่นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกันก็สามารถสร้างความสนุกและความสุขให้เราได้ไม่ใช่น้อยเลย

3. ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก

ลองหยิบจักรยานของคุณและปั่นไปรอบๆ ละแวกบ้าน หรือหากคุณไม่มีจักรยาน ก็ลองหยิบรองเท้ากีฬาคู่โปรดแล้วออกไปเดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกาย กิจกรรมนี้ไม่เพียงส่งผลดีดีสำหรับร่างกายคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกด้วยนะ ทั้งการที่ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด การช่วยลดความเครียด การช่วยปรับอารมณ์ของคุณให้คงที่ และที่สำคัญทั้งหมดนี้ คุณแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่นิดเดียว

4. ทำงานอาสาสมัคร

การสมัครเป็นอาสาสมัครในองค์กรเพื่อการกุศลหรือองค์กรท้องถิ่น สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของคุณได้ (แถมยังฟื้นฟูกระเป๋าสตางค์ของคุณด้วยนะ) มีการวิจัยในปี 2009 โดยนักจิตวิทยาสังคม Dr.Jorge A. Barraza และนักประสาทวิทยา Dr.Paul J. Zak กล่าวว่า เมื่อมนุษย์เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้น สาร oxytocin (หรือที่เราเรียกว่าฮอร์โมนแห่งความสุข) จะเพิ่มขึ้นในสมองถึง 47 % เลยทีเดียว เพียงแค่ลงแรงช่วยเหลือผู้คน คุณก็ได้ความสุขกลับมาเต็มๆ

“ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ”

5. ประยุกต์สิ่งใหม่

ลองเดินค้นหาร้านของมือสองใกล้ๆ พื้นที่ของคุณ แม้ว่าสินค้าอาจจะไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่นัก แต่ลองมองหาสิ่งที่ดูแปลกตา และลองนำกลับมาบ้านและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับมันดู เพียงแค่ลองนำมาพลิกแพลงประยุกต์ใช้ คุณอาจไม่รู้เลยก็ได้ว่าของเก่านั้นสามารถสร้างมีมูลค่าได้มากกว่าเงินที่คุณใช้จ่ายออกไป หรือถึงแม้สิ่งนั้นจะไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก แต่อย่างน้อยมันก็มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับคุณอย่างแน่นอน

6. เรียนรู้เข้าไว้

ในหลาย ๆ เมืองมักมีพิพิธภัณฑ์ที่คนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ฟรีทุกวัน หรือพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจจะมีวันพิเศษที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรี ลองค้นหาพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใกล้ๆ ที่คุณสามารถเข้าร่วมฟรีและใช้เวลาเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เหล่านั้นดู และแน่นอนคุณแทบไม่ต้องเสียเงินสักบาท

7. สำรวจสิ่งต่างๆ

“เมื่อสงสัยให้สำรวจ”  ลองเข้าไปที่ตัวเมืองหรือสถานที่ที่น่าสนใจในชุมชนของคุณและเดินสำรวจไปรอบๆ

บางทีคุณอาจจะได้เจอกับงานอีเวนท์ฟรีๆ หรือเจอกับงานศิลปะบนกำแพง ซึ่งมันอาจเป็นภาพที่คุณสามารถแชร์กับเพื่อนๆบน Instagram ของคุณได้

“เมื่อสงสัย ให้สำรวจ”

หากคุณกำลังหาเรื่องสนุกๆ ทำละก็ ก่อนที่คุณคิดจะดึงเงินออกจากกระเป๋า ลองนำไอเดียเหล่านี้ไปใช้ดูก่อนสิ คุณอาจจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าที่คิดก็ได้

Source : Success