แม้ว่าบางครั้งคนเราจะชอบหน้าที่การงานของตัวเองที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มองหาโอกาสใหม่ๆ เพราะเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจถึงความต้องการของเหล่าพนักงานของคุณ และพยายามกระตุ้นพวกเขาให้รู้สึกว่าพวกเขาก็มีความสำคัญต่อบริษัทไม่น้อยเลย
CareerBuilder ได้รายงานไว้ว่า จากการสำรวจพบว่าพนักงานประมาณร้อยละ 21 วางแผนที่จะลาออกจากงานปัจจุบันในปี 2016 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16 ในปี 2015) อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจ้างงานและฝึกฝนพนักงานใหม่นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เพราะฉะนั้นคุณควรใส่ใจถึงสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะลาออกจากบริษัทกันนัก และควรรู้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี เพื่อที่พนักงานเก่งๆ ของคุณยังคงมีความสุขกับการทำงาน และจะได้อยู่กับคุณไปนานๆ
คุณไม่ให้ความเคารพ และไม่ให้ความสำคัญกับพวกเขา
มันไม่เกี่ยวหรอกว่าพนักงานจะรักงานของเขามากแค่ไหน ถ้าพวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับคำชื่นชม หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสำคัญ พวกเขาก็พร้อมที่จะลาออกไปได้ทุกเมื่อ แต่พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าคุณรับรู้และจดจำถึงความพยายามของพวกเขา ดังนั้น คุณอาจจะลองจัดงานเลี้ยงรับรองหรือทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน เช่น การพากันไปเล่นกีฬา หรือเลือกทำกิจกรรมกลุ่มง่ายๆ
พวกเขาขาดความก้าวหน้าทางการงาน
พนักงานที่มีความทะเยอทะยานจะรู้สึกแย่ ถ้าหากโอกาสที่พวกเขาจะก้าวหน้านั้นมีน้อยหรือไม่มีเลย การทำงานเดิมซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลานานคงไม่น่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะกับคนเก่งๆ
นายจ้างบางคนมักจะให้โอกาสกับคนในครอบครัว และเพื่อนสนิทของตัวเองมากกว่าคนอื่นๆที่มีคุณสมบัติอันเหมาะสม หรือบางทีก็จะเลือกพนักงานจากคนที่ว่านอนสอนง่าย มากกว่าที่จะมองหาคนที่เหมาะสมแต่มีแนวโน้มที่จะดื้อรั้น ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่พนักงานได้ และอาจจะทำให้คนเก่งๆลาออกไปจากบริษัทของคุณ เรื่องนี้เป็นเรื่องของสามัญสำนึกที่ใครๆก็รู้ แต่อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าอย่าเลือกปฏิบัติเด็ดขาด พนักงานของคุณต้องการความเชื่อมั่นว่าพวกเขามีโอกาสเท่าๆกัน
สร้างโอกาสให้คนในองค์กรเกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของพวกเขา เช่นให้ทุนไปศึกษาต่อ เป็นต้น พวกเขาจะได้ทักษะที่เพิ่มขึ้น และได้เครือข่ายในทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
พวกเขาไม่ได้รับความใส่ใจ หรือไม่เคยได้รางวัลตอบแทนเลย
พนักงานแต่ละคนก็อยากจะให้คุณแสดงความใส่ใจ หรือสำนึกขอบคุณต่องานของพวกเขาบ้าง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ขอบคุณพวกเขาบ่อยๆอย่างจริงใจ, ให้โบนัสเล็กๆน้อยๆ, มอบเกียรติบัตรเพื่อแสดงความขอบคุณ และถ้าคุณมีงบมากหน่อย ก็ลองให้ทุนการศึกษา หรือสนับสนุนค่าเล่าเรียนแก่พวกเขา ลองให้โอกาสกับคนที่ทำงานออกมาได้ดีเป็นที่น่าจดจำ และมอบโบนัสให้กับคนที่มีผลงานโดดเด่น เป็นต้น
คุณทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ
คุณควรทำให้พนักงานของคุณรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร โดยให้คุณค่ากับความคิดของพวกเขาและงานที่พวกเขาทำ มิเช่นนั้นพวกเขาจะรู้สึกแปลกแยก และคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต่อบริษัท ลองจัดงานประชุมที่ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมตัดสินใจกับแนวทางของบริษัท สัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละสองครั้งก็ดี
คุณไม่ยอมให้พวกเขาตัดสินใจอะไรเองเลย
พนักงานต้องการให้คุณเชื่อมั่นในตัวพวกเขา มากพอที่จะให้เขารับผิดชอบกับงานด้วยตัวของพวกเขาเองได้ เหล่าผู้จัดการที่มักจะตามติดลูกน้องอยู่ตลอดเวลานั้น แสดงว่าพวกเขาไม่เชื่อใจลูกน้องของตัวเองเลย ผู้จัดการที่ดีจะให้กำลังใจกับลูกน้อง ให้ความเป็นอิสระ ให้พวกเขาตัดสินใจเอง และให้รับผิดชอบกับงานของพวกเขาเองได้ ลองวิธีง่ายๆ เช่น การอนุญาติให้พนักงานเอางานกลับไปทำที่บ้าน สักสามสี่ครั้งต่อเดือน
ขวัญกำลังใจตกต่ำ
วิธีหนึงที่จะเรียกขวัญกำลังใจก็คือ กระตุ้นเหล่าพนักงานให้ลองหันมาทำงานเพื่อสังคมบ้าง เช่น จัดหาเวลางานสัก 8-10 ชั่วโมงต่อเดือน ให้พวกเขาไปทำกิจกรรมจิตอาสา
นอกจากนี้ พนักงานที่สุขภาพดีกว่ามักจะเป็นคนที่มีความสุขมากกว่า ดังนั้นให้คำนึงถึงสุขภาพของพวกเขาด้วย อาจจะพาไปเข้าโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ ฝึกการจัดการความเครียด หรือจัดหาส่วนลดสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกของฟิสเนตเซ็นเตอร์ก็ได้
พนักงานที่สนุกกับการทำงาน และมีอนาคตที่สดใส คงไม่คิดที่จะลาออกหนีคุณไปไหนหรอก การสร้างบรรยากาศที่ก่อให้เกิดการแข่งขัน และไม่ทำให้เครียดจนเกินไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานเก่งๆอยู่กับคุณไปได้อีกนานแสนนานเลยล่ะ
Source : Entrepreneur