6 แนวคิด วิธีปั้นตัวเองให้เป็นแบรนด์ สำหรับคนไม่กล้าแสดงออก

4837

ส่วนหนึ่งของการประกอบอาชีพให้ประสบความสำเร็จมักเริ่มต้นมาจาก การสร้างแบรนด์บุคคล หรือ Personal Branding ของตัวผู้ประกอบการขึ้นมา ซึ่งก็คือการนำตนเองเข้ามาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ เช่น เมื่อพูดถึง สตีฟ จอบส์ เราก็จะนึกถึงแบรนด์ Apple และเมื่อพูดถึง ตัน ภาสกรนที เราก็จะนึกถึงแบรนด์ อิชิตัน เป็นต้น

แม้การก้าวออกมาจากขอบเขตของความสุขสบาย หรือ Comfort Zone อาจฟังดูน่าหวาดหวั่น แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องเผชิญหน้าดูบ้าง การก้าวออกมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น แน่นอนว่าการผูกมิตรกับผู้อื่นอาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับบุคคลประเภทกล้าแสดงออก (Extrovert) แต่กลับเป็นเรื่องยากทีเดียวสำหรับบุคคลประเภทชอบเก็บตัว (Introvert) ที่มักโหยหาช่วงเวลาที่จะได้อยู่ตามลำพังและค่อนข้างขี้อาย โดยเฉพาะในโลกที่เต็มไปด้วยเหล่ามืออาชีพและผู้ร่วมสายงานเป็นบุคคลประเภทกล้าแสดงออกที่ล้วนมีมนุษย์สัมพันธ์และทักษะทางสังคมที่ดีเยี่ยม แต่ถ้าหากคุณเป็นคนประเภทชอบเก็บตัวอยู่ล่ะก็ คุณอาจจำเป็นต้องหาวิธีที่จะช่วยเสริมสร้างตนเองให้เป็นที่รู้จักโดยที่ไม่ต้องฝืนใจตัวเอง และทางเรามี 6 แนวคิดดีๆ สำหรับเหล่า Introvert ในการจะสร้าง Personal Brand ให้ประสบความสำเร็จ

1. อย่าอายที่จะพูดถึงความสำเร็จของตนเอง

ประสบความสำเร็จ

โดยส่วนใหญ่แล้ว คนประเภท Introvert มักจะถูกมองข้ามจุดนี้ไป เนื่องจากว่าพวกเขาพยายามที่จะไม่เป็นที่สนใจหรือไม่เป็นที่จับตามองของผู้อื่น อันที่จริงแล้ว พวกเขาเพียงแค่ไม่รู้วิธีที่เหมาะสมในการนำเสนอสรรพคุณของตนโดยที่ไม่ต้องเป็นคนอวดโอ่หรือวางก้าม ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนักที่จะรอให้ผู้อื่นมาพูดถึงความสำเร็จของคุณเพียงอย่างเดียว หากคุณปล่อยให้เรื่องราวความสำเร็จของคุณผ่านไปเฉยๆ โดยไม่มีใครสนใจเลย อาจทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ไปก็ได้ ลองให้เวลาตัวเองสักนิดในการคิดว่าจะบอกเล่าความสำเร็จของคุณอย่างไร เพื่อที่จะได้มีคนรับรู้ถึงความสามารถของคุณอย่างแท้จริง

2. พยายามสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่า Introvert มักจะหาที่ปรึกษามาช่วยในการไขว่คว้าหาความสำเร็จ เนื่องจากพวกเขามักไม่รู้ว่าควรจะขอคำปรึกษาจากใคร เมื่อไหร่ และอย่างไรถึงจะดี ดังนั้นการสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่สามารถพูดแทนในส่วนของคุณได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการใครสักคนมารับประกันทักษะและความสามารถของคุณ

3. แบ่งปันไอเดียของตัวเอง

ทำงาน

ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นป่าวประกาศไปทั่วก็ได้ แต่อย่างน้อยขอให้รู้สึกสบายใจที่ได้บอกเล่าถึงไอเดียหรือความคิดเห็นใหม่ๆ ให้ผู้อื่นได้รับฟังบ้าง เนื่องจากการทำเช่นนี้เป็นหนทางหนึ่งในการแสดงออกให้ผู้อื่นรับรู้ถึงความพยายามในการสนับสนุนองค์กรของคุณเอง ถ้าหากคุณรู้สึกว่ามันอาจเป็นเรื่องยาก ให้ลองวางแผนและลำดับสิ่งที่ต้องการจะพูดไว้ล่วงหน้าก่อน

4. อย่าประเมินการดำเนินงานของตนเองมากจนเกินไป

เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่า Introvert มักจะกดตันตนเองมากจนเกินไป เนื่องจากพวกเขาจะมีความตระหนักและระแวดระวังกับการกระทำของตนเองค่อนข้างสูงเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถูกจับตามอง เอาเป็นว่า อย่าตอกย้ำหรือทำร้ายจิตใจตัวเองด้วยการหมกมุ่นอยู่กับข้อผิดพลาด แล้วหันมาให้ความสำคัญกับความสำเร็จแทนจะดีกว่า

5. ฝึกซ้อมตนเอง เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะทำให้คุณรู้สึกประหม่า

ถ้าหากคุณจำเป็นจะต้องนำเสนองาน การฝึกฝนคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง อาจลองซ้อมพูดหน้ากระจก หรือขอให้เพื่อนที่ไว้ใจมาช่วยฟังเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจก็ได้ ยิ่งได้ลองฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งชินกับมันมากขึ้น และความรู้สึกประหม่าก็จะลดน้อยลง

6. วางแผนงานไว้เสมอ

วางแผน

ถ้าหากว่าใกล้จะถึงช่วงงานพบปะสังสรรค์กับผู้อื่น อย่าลืมให้เวลากับตัวเองในการวางแผนด้วย อาจเริ่มด้วยการคิดถึงประเด็นเปิดการสนทนาเล็กๆ น้อยๆ ในหัว เช่น พูดถึงสิ่งต่างๆ ที่ผู้อื่นสามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นได้ อย่างเช่น สถานการณ์ที่เป็นข่าวในปัจจุบัน หรือหนังที่กำลังเข้าฉายอยู่ตอนนี้ จงจำไว้ว่าการพูดคุยมักจะเป็นไปอย่างราบรื่นเสมอ หากผู้ร่วมสนทนาสามารถหาสิ่งที่สนใจร่วมกันได้

คนประเภท Introvert มักพูดว่า พวกเขารู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยผ่านโลกออนไลน์มากกว่าการพบปะกันต่อหน้า ทั้งนี้ การสร้าง Personal Brand ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาวิธีสร้างผลประโยชน์จากสื่อออนไลน์ต่างๆ ด้วย เช่น Facebook LinkedIn และ Twitter ให้มากที่สุด เพื่อที่ว่าจะได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยปราศจากสภาพแวดล้อมที่กดดันจากคนรอบข้าง โลกที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญอาจฟังดูน่ากลัวสำหรับชาว Introvert แต่ไม่ว่าใครก็ตาม ทุกคนสามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการสร้างเครือข่ายสังคมเพื่อขยายแบรนด์ของตนได้เหมือนกันทั้งนั้น

 

Source : Entrepreneur