คุณเคยอยู่ในช่วงเวลาที่ตกต่ำในหน้าที่การงานหรือเปล่า? ถ้าคุณพบว่าตัวเองไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ นั่นหมายความว่าอาจจจะมีอะไรบางอย่างที่ฉุดรั้งคุณเอาไว้โดยที่คุณไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ คนหลายคนมักจะมีนิสัยแย่ ๆ ที่ทำให้เราไม่ก้าวหน้าในอาชีพหรือธุรกิจ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องดีที่เราควรจะตระหนักถึงมันแล้วเลือกที่จะเผชิญหน้า กำจัดมันออกไป ปรับปรุงตัวเราให้ดีขึ้น และนี่คือ 6 ข้อผิดพลาดที่คุณอาจมี และแน่นอนว่ามันกำลังฉุดรั้งคุณไม่ให้ก้าวไปไหนได้สักที
1. คุณไม่มีความรู้พื้นฐาน
ถ้าคุณจะสร้างบ้านสักหลังแต่คุณกลับไม่มีฐานรากที่ดีพอ แน่นอนว่าสักวันมันจะเกิดปัญหาตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกันกับงานหรืออาชีพของคุณ ถ้าคุณไม่ใช้เวลาเพื่อศึกษาเรื่องพื้นฐานต่าง ๆ ให้แจ่มแจ้งแล้วล่ะก็ คุณก็จะก้าวหน้าไปได้ช้ามาก ๆ เลยล่ะ
ไม่ใช่เรื่องน่าอายนักหรอก ถ้าคุณจะหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาเพื่ออ่านหาความรู้เพิ่ม รวมทั้งการทบทวนสิ่งที่คุณเคยเรียนไปแล้ว เพราะคุณจะได้รายละเอียดใหม่ ๆ มากขึ้น เช่นเดียวกับการดูหนังสักเรื่อง ถ้าคุณดูหลาย ๆ รอบคุณจะพบว่ามีบางอย่างที่ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยสังเกตเห็นมันมาก่อนเลย ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งก็คือ อย่าลืมทบทวนสิ่งที่คุณเรียนรู้มา โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานต่าง ๆ เพราะพื้นฐานที่แข็งแรงจะช่วยให้คุณไปต่อข้างหน้าได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
2. เป้าหมายของคุณยังคลุมเครือ
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงนั้นเป็นปัจจัยหลักในความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน และในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณก็จะขาดแรงจูงใจและไร้จุดหมายที่คุณอยากจะไปให้ถึง
ในงานวิจัยของ ดร.เอ็ดวิน ล็อค ซึ่งได้เผยแพร่เอาไว้ตั้งแต่ปี 1968 แต่ยังคงนำมาใช้กับกรณีนี้ได้ก็คือ เขาทำการศึกษาเรื่องของทฤษฎีในด้านแรงจูงใจและสิ่งจูงใจ ซึ่งผลวิจัยของเขานั้นพบว่า เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจได้อย่างมาก การทำงานที่มีเป้าหมายชัดจะช่วยให้เกิดแรงจูงใจ ความมุ่งมั่นต่องาน และนั้นหมายความว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นอย่างมาก มากไปกว่านั้นคือเป้าหมายที่ยากและมีความเฉพาะเจาะจงสามารถนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพกว่าเป้าหมายที่คลุมเคลือหรือง่ายเกินไป
3. คุณสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดมากเกินไป
จงจำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะทำยังไง ก็ไม่มีทางที่จะให้ทุกคนพึงพอใจได้หรอก คุณต้องทำในสิ่งที่คุณอยากทำอย่างสุดความสามารถ อดทนกับคำวิจารณ์ แต่ก็ให้ความเคารพต่อความเห็นของผู้อื่นด้วย อย่าให้ความเห็นของผู้อื่นมีผลต่อคุณมากเกินไป ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้คุณรู้สึกกลัวแล้วไม่กล้าลงมือทำอะไรเลยสักที แน่นอนล่ะว่าคุณก็จะไม่มีทางพบเจอกับความสำเร็จด้วยเช่นกัน
4. คุณพยายามแก้ไขปัญหาทุกอย่าง โดยที่ไม่ปรึกษาใคร
คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน ก็คือ พวกเขามีที่ปรึกษา
หลายคนมักจะทนทรมานกับการก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยตัวคนเดียว นั่นไม่ต่างอะไรกับการปีนเขาเอเวอร์เรสต์เพียงลำพัง และจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ยาก หรือไม่มีทางไปถึงจุดนั้นได้เลย ดังนั้น คุณจึงต้องมีที่ปรึกษาที่จะช่วยให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือคุณได้ พวกเขาเหล่านี้แหละที่จะเป็นผู้คอยชี้แนะว่าคุณควรจะเดินไปทางไหนและช่วยหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่าง ๆ ให้กับคุณ การมีที่ปรึกษานั้นเป็นสิ่งจำเป็นต่อความก้าวหน้าอย่างมาก อย่าเอาแต่พยายามเพียงตัวคนเดียว เพราะสุดท้ายแล้วคุณอาจจะต้องเจอบททดสอบอีกมาก ถ้าไม่ยอมให้คนอื่นช่วย…คุณอาจไปต่อลำบาก
5. คุณจัดการเวลาไม่เป็น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการที่คนเราจะประสบความสำเร็จนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา คนหลายคนมักจะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำตามความฝันเพราะพวกเขาไม่มีเวลาพอ แต่ว่า…มันจริงหรือเปล่าล่ะ?
ความจริงก็คือ เวลา ไม่ใช่ของขวัญที่คุณได้มาจากใครสักคน แต่มันเป็นสิ่งที่คุณจะต้องสร้างขึ้นมาเองต่างหาก อย่างเช่น คุณอาจจะลดเวลาดูเน็ทฟลิกซ์ หรือเล่นเฟซบุ๊กให้น้อยลง หรือแม้แต่การตื่นให้เช้าขึ้นกว่าเดิม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล เขาตื่นนอนตั้งแต่ตี 3.45 น. ดังนั้นเขาจึงมีเวลาในการตอบอีเมล์ และมีเวลาเตรียมตัวกับงานที่เขาต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน อย่าลืมว่าคุณต้องจัดการเวลาตัวเองให้ดี ถ้าคุณอยากก้าวไปสู่ความสำเร็จโดยไม่ติดขัดตลอดทาง
6. คุณหยุดเรียนรู้
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ คุณลักษณะสำคัญของคนที่ประสบความสำเร็จ
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างแล้ว คุณจะไม่มีทางก้าวไปข้างหน้าได้เลย ไม่ว่าจะเป็นในทางอาชีพ หรือว่าการใช้ชีวิต
การศึกษาคือใบเบิกทางสู่อนาคต และอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับว่าปัจจุบันนี้คุณทำอะไรและเรียนรู้อะไรไปบ้าง การเรียนรู้นั้นทำได้หลากหลายวิธี ทั้งเรื่องเล็ก ๆ หรือเรื่องใหญ่ ๆ ทั้งจากตัวเองหรือไม้ก็คนอื่น ๆ ถ้าคุณไม่หยุดเรียนรู้ คุณก็จะก้าวไปข้างหน้าได้เสมอ และความสำเร็จไม่มีทางไกลเกินความเพียรอย่างแน่นอน
Source : Entrepreneur