5 อุปนิสัย ของคนที่มี “ความมั่งคั่งทางอารมณ์”

2289

“หัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข คือ ยารักษาชั้นเลิศ”

คุณอยากมีอะไรมากกว่ากัน “ความมั่งคั่งทางการเงิน” หรือ “ความมั่งคั่งทางอารมณ์”? คุณอาจไม่เคยสังเกต แต่ว่าการมีความเข้มแข็งทางด้านอารมณ์และตอบสนองใช้ประโยชน์จากอารมณ์อย่างถูกวิธีนั้น มีคุณค่ายิ่งกว่าการมีบัญชีเงินฝากเป็นไหนๆ

หากคุณยังไม่ปักใจเชื่อละก็? งั้นลองมาศึกษา 5 ลักษณะนิสัยของเหล่าคนที่มีความมั่นคั่งทางอารมณ์ ที่อาจจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดว่า อะไรกันแน่คือความหมายของการมีชีวิตที่ดี

1. พวกเขาคิดบวกอยู่เสมอ

การจะมั่งคั่งในด้านใดก็ตาม สุขภาพกายและจิตที่ดีคือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ เพราะฉะนั้น คุณเองก็ควรจะดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีเช่นกัน นั่นหมายความว่า คุณต้องป้อนแต่สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง โฟกัสที่ความคิดบวกที่จะช่วยให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่ความคิดลบหรือความวิตกกังวล ที่มีแต่จะบั่นทอนจิตใจ ซ้ำยังไปขัดขวางความเจริญก้าวหน้าอีก

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “หัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข คือ ยารักษาชั้นเลิศ” แล้วคุณล่ะ มีจิตใจส่วนไหนที่บอบช้ำและต้องการการรักษาบ้างหรือเปล่า?

2. พวกเขาคือนักลงทุนทางอารมณ์

คุณกำลังมองหาวิธีปลูกต้นไม้เงินต้นไม้ทองอยู่หรือเปล่า? แย่หน่อยที่การลงทุนทางลัดเช่นนั้นไม่มีทางเป็นจริง แต่คนที่มีความมั่งคั่งทางอารมณ์นั้นรู้ดีว่า การลงทุนกับข้อดีที่ตนมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการตั้งใจช่วยเหลือและปลูกฝังให้ผู้อื่นมีความมั่งคั่งทางอารมณ์ด้วยนั้น คือการได้เห็นผลของมันกำลังงอกเงยทำให้คุณเองเติบโตไปด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณจะพบว่ามีคนที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนทางอารมณ์จากคุณ มีมากมายยิ่งขึ้นกว่าที่คุณคิดไว้เสียอีก

3. พวกเขาคือคนที่พร้อมจะเสี่ยง

ผู้คนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพและความสัมพันธ์นั้น ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเลือกความปลอดภัย
ไว้ก่อนแน่ๆ แต่พวกเขารู้ดีว่าอย่างไรก็ต้อง “เสี่ยง” เพราะการจะเป็นคนมั่งคั่งทางอารมณ์นั้น ก็ต้องมีเสี่ยงกันบ้างเหมือนกัน ด้วยการลงทุนช่วยเหลือผู้อื่นทางด้านอารมณ์โดยที่พวกเขาก็รู้ดีว่า มันนำมาซึ่งความเสี่ยงที่สุขภาพจิตของตนอาจจะถูกกระทบไปด้วย

แต่หัวใจสำคัญก็คือ คุณต้องไม่ให้ใจมากเกินกว่าที่ตนจะรับได้ และพึงระลึกไว้เสมอว่าคุณอาจไม่มีได้อะไรกลับคืนมา แต่อย่าเพิ่งกลัวไปล่ะ เพราะประโยชน์ที่จะได้จากการยอมเสี่ยงสักหน่อยนั้น กลับคุ้มค่ายิ่ง เช่น  การมีคู่ค้าทางธุรกิจทำให้กิจการก้าวหน้า หรือมีมิตรภาพใหม่ๆ ที่เข้ามาเกื้อหนุนกันและกัน แม้แต่คู่ชีวิตคู่ที่อาจลงเอยด้วยการแต่งงานอย่างมีความสุข เอาล่ะ แล้ววันนี้คุณจะลองเสี่ยงกับการลงทุนทางอารมณ์อย่างไรดีนะ?

4. พวกเขารู้สึกปลอดภัย

การปล้นธนาคารมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราเห็นในหนังหรอก ถ้าการขโมยเงินของคนอื่นมันง่ายขนาดนั้นล่ะก็  คงไม่มีใครไปฝากเงินกับธนาคารแต่แรกหรอก ว่าไหม?

และสำหรับความมั่งคั่งทางอารมณ์นั้นก็ไม่ต่างกันเลย คุณควรแบ่งใจให้แต่คนที่คุณเต็มใจจะให้ก็พอ แม้ว่าคุณอาจจะลงทุนทางอารมณ์กับใครหลายคน แต่ควรมีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อใจเท่านั้น ที่ได้เข้าไปสัมผัสส่วนลึกของคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องปิดกั้นตัวเองจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิงนะ เพียงแต่คุณต้องรู้ว่าควรปล่อยให้ใครมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกตนเองอย่างแท้จริง และใครที่ควรถูกผลักไส

5. พวกเขาคือผู้ให้

การให้และการลงทุนนั้นไม่เหมือนกันซะทีเดียว เวลาที่คุณลงทุน เช่น การสร้างมิตรภาพ แน่นอนว่าคุณหวังจะได้รับผลตอบแทน แต่ในเวลาที่คุณให้อะไรกับใคร คุณไม่ควรหวังอะไรตอบแทนไปมากกว่าความรู้สึกดีจากการให้  เหมือนกับสำนวนที่ว่า “เป็นผู้ให้ย่อมสุขใจกว่าเป็นผู้รับ”   การให้ความรัก ความเมตตา หรือความอดทนกับใครสักคน โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนนั้นย่อมดีต่อใจของผู้ให้  และยังเพิ่มพูนความมั่นคั่งทางอารมณ์ของคุณขึ้นไปอีก  แม้คุณจะรู้สึกว่าไม่ได้ให้อะไรมากมาย แต่ถ้าทำด้วยเหตุผลที่ถูกต้องแล้วล่ะก็ คุณจะได้รับอะไรกลับมามากมายกว่าที่ให้ไปเสียอีก

 

Source: Success