
การผัดวันประกันพรุ่ง คือเหตุผลยอดนิยมที่สุดที่ทำให้ใครต่อใครไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จตามเป้าได้ แล้วคุณเป็นอย่างนั้นไหม? คำนิยามของการผัดวันประกันพรุ่งคือ “คนที่ยุ่งมากและทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน แต่ไม่เคยจัดลำดับความสำคัญได้ว่าควรทำอะไรก่อน” เวลามีภาระที่ต้องจัดการให้เสร็จ คุณเคยใช้ข้ออ้างต่อไปนี้บ้างหรือเปล่าล่ะ?
- แค่ยังไม่อยากทำตอนนี้
- ก็มันไม่รู้สึกอยากทำเลยสักนิด
- คือไม่รู้ว่าควรจะเริ่มทำอะไรก่อนดี
- เราแค่ไม่มีเวลาน่ะ
- ก็มันไม่ได้เร่งด่วนขนาดนั้นสักหน่อย
การผัดวันประกันพรุ่งสามารถทำลายความฝันของคุณได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับเพื่อปรับแก้ไขนิสัยแย่ๆ นี้ เดี๋ยวนี้ และตอนนี้เลย!
1. รู้ตัวเองว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
เราต้องสั่งการสมองตัวเองว่าอยากจะไปในทิศทางไหน หรือมองหาอะไรอยู่ เป้าหมายของคุณคืออะไร? คุณอยากจะให้ชีวิตเดินไปในทางไหน? หนึ่งสิ่ง ที่ต้องทำในวันนี้คืออะไร? จงระบุอย่างเฉพาะเจาะจงและชัดเจนที่สุด จากนั้นจดมันลงไปเพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าคุณควรใส่ใจโฟกัสที่สิ่งไหนด้วยล่ะ
2. เล่าเป้าหมายตัวเองให้คนอื่นฟัง
ถ้าคุณบอกเพื่อนว่าจะไปรับ คุณก็ต้องไปรับพวกเขาจริงๆ ถูกไหม? แน่นอนว่าเราไม่อยากผิดคำพูดหรือทำให้ใครผิดหวัง การเล่าเป้าหมายของตัวเองให้คนสำคัญๆ ในชีวิตฟังจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้คุณทำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะต้องรักษาคำพูดของตนเอง
3. หยุดทำอะไรเพียงเพื่อถ่วงเวลาได้แล้ว
บางครั้งเราก็ทำหาอะไรทำไปเรื่อยเพื่อถ่วงเวลาตัวเอง เช่นว่า ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือซักผ้า เแต่เรากลับเริ่มทำความสะอาดหรือจัดข้าวของอย่างอื่นแทนซะอย่างนั้น แล้วคุณล่ะ มักจะทำอะไรเป็นข้ออ้างถ่วงเวลาบ้าง? มีสิ่งไหนที่คุณทำเพราะกำลังไขว้เขวหรือละสายตาจากเป้าหมายของตัวเองหรือเปล่า?
4. รู้เอาไว้ว่าการแก้ปัญหาไม่ได้มีแค่วิธีเดียว
รู้หรือไม่ว่าการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียว? แม้เป้าหมายจะสำคัญกว่าวิธีการ แต่มันก็มีหลากหลายเส้นทางให้เราได้เลือกเดิน ดังนั้นอย่ามัวมากังวลหรือสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร แถมยังถ่วงเวลาคุณด้วย และถ้าจะต้องสู้เพื่ออะไรสักสิ่งก็ขอให้เป็นสิ่งที่ช่วยคุณตั้งใจไปให้ถึงฝั่งฝันนั้นให้ได้
5. จดจ่อโฟกัสที่เป้าหมายเข้าไว้
ยังจำประสบการณ์ตอนหัดปั่นจักรยานได้หรือเปล่า? เรามักจะปั่นไปชนอะไรที่พยายามหลีกเลี่ยงอยู่เรื่อย
สิ่งนี้เรียกว่า การจำกัดเป้าหมาย (Destination Fixation) ชีวิตมักจะดำเนินไปยังจุดโฟกัสของเราเสมอ ถ้าเราคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ก็ให้พุ่งความสนใจไปยังความคิดเชิงบวกแทน คุณอยากเดินไปในทางไหน? อยากทำเป้าหมายอะไรให้สำเร็จบ้าง? นับจากนี้ไป แทนที่จะกังวลว่าจะทำพลาด จนผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ก็ควรหันมาโฟกัสในด้านบวกและจดจ่อแต่ละเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จจะดีกว่า
เทคนิคพิเศษ: หมั่นเติมพลังเชื่อเพลิงให้เต็มที่อยู่เสมอ คุณถึงจะมีสมาธิจดจ่อและเดินหน้าต่อไปจนถึงเป้าหมายได้ อาจเริ่มด้วยการอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ช่วยผลักดันให้คุณตั้งใจและพากเพียร พร้อมกับอยู่ให้ห่างจากคนที่จะฉุดรั้งคุณไว้ โดยเทคนิคง่ายๆ เลยคือ ลองเขียนรายการ กิจกรรม ผู้คน และสิ่งต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณที่ด้านดีและแย่ แล้วหาทางให้มีสิ่งดีๆ มากขึ้น พร้อมกับลดหรือหลีกเลี่ยงสิ่งแย่ๆ ให้น้อยลงดูสิ
Source : Success