
ผู้คนมักยึดติดปรัชญาที่ว่า การประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหมายถึง การทุ่มเทเวลาและการยอมละทิ้งช่วง
เวลาวันหยุดพักผ่อนอย่างไม่รู้จบ แต่การทำงานหนักเกินไป ต้องมาก่อนเวลาแถมยังกลับซะดึกดื่น แท้จริงแล้วคือศัตรูของความก้าวหน้า มันนำไปสู่ความเหนื่อยล้า ท้อแท้หมดกำลังใจ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพอีกด้วย สิ่งเหล่านี้คือความคิดเห็นของ Mercedes DeLuca COO ของ Basecamp บริษัทซอฟท์แวร์บริหารจัดการโครงการ เธอเสริมว่า บริษัทของเธอเคร่งครัดอย่างมากไม่ให้พนักงาน ทำงานเกิน 40 ชัวโมงต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังเสนอให้บริษัทอื่นๆ ร่วมลงชื่อรณรงค์สัญญา Work Can Wait หรือ “งานรอได้” อีกด้วย
และนี่คือข้อคิดคิดเห็นของเธอต่อเรื่องชั่วโมงการทำงาน
1. งานส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น
ลองคิดถึงกำหนดการส่งงานดีๆ สิ กำหนดการเหล่านั้นเร่งรัดให้คุณต้องบังคับตนเองเกินไปหรือเปล่า? มันจำเป็นต้องเสร็จอย่างเร่งด่วนตอนนี้ หรือภายในวันนี้เลยหรอ? รอพรุ่งนี้หรือตอนเข้าออฟฟิศครั้งถัดไปแทนได้ไหม? เชื่อเถอะว่างานส่วนใหญ่น่ะ ไม่ได้รีบเร่งขนาดนั้นหรอก
2. การกำหนดเวลาทำงาน 40 ชม/สัปดาห์ คือการทำธุรกิจอย่างมีมนุษยธรรม
ธุรกิจชั้นนำมักจะใส่ใจลูกค้าของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นการปฏิบัติต่อพนักงานก็ควรไปในทิศทางนั้นเช่นกัน การใส่ใจเรื่องภายในผ่านทั้งการเคารพซึ่งกันและกัน มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจ และการมีมารยาท ที่ดีจะส่งผลถึงภายนอกผ่านการทำงาน อย่างที่ DeLuca กล่าวว่า “คุณอยากปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างมีมนุษยธรรม แต่มันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคุณปฏิบัติต่อลูกจ้างด้วยมาตรฐานเดียวกัน”
3. ถ้างานคุณรอไม่ได้จริงๆ ล่ะก็ จงลงมือทำเสียเดี๋ยวนั้น
หากเป็นงานด่วนที่ส่งผลอย่างมากต่อธุรกิจของคุณ ก็จงทำให้เสร็จก่อนเป็นอันดับแรก DeLuca กล่าวว่า “งานด่วนเหล่านั้นคือสิ่งที่คุณควรใส่ใจอย่างจริงจัง”
4. การให้ความสำคัญกับงานที่มีคุณค่าช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
หากเหล่าพนักงานใช้เวลา 40 ชั่วโมงใส่ใจกับงานที่มีประโยชน์แท้จริง งานที่ได้จะออกมาเป็นงานที่ดี และมีคุณค่า ซึ่งจะช่วยให้พวกเขารู้สึกถูกเติมเต็มและมีส่วนร่วมกับริษัทมากขึ้น DeLuca กล่าวว่า “ฉันพยายามที่จะจัดการตารางเวลาในแต่ละวันของฉันโดยสนใจสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อบริษัทก่อน และทันทีที่ภาระเหล่านั้นเสร็จสิ้นแล้ว ฉันจะรู้สึกว่าวันนี้ทำผลงานได้ดีจริงๆ”
Source : Inc-asean