3 หนทางสู่การเป็นผู้ฟังที่ดี และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1387

ความขัดแย้งของการเป็นผู้นำระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มักจะมีสาเหตุมาจากการสื่อสารที่ล้มเหลว ซึ่งมันมักจะกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่นๆ ในที่ทำงาน จากผลการวิจัยโดย Skyline Group International, Inc. พบว่า ภาวะการเป็นผู้นำมีหลากหลายรูปแบบ เพราะทั้งความเด็ดขาดแบบผู้ชาย หรือความนุ่มนวลแบบผู้หญิงก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของการเป็นผู้นำทั้งนั้น

เราจะสื่อสารได้ดีขึ้น ถ้าหากเข้าใจการแสดงออกหลายๆ รูปแบบ แล้วเลือกใช้วิธีที่เหมาะกับตัวเอง สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้คือ 3 วิธีการที่จะช่วยให้คุณสามารถนำหลักการเหล่านั้นไปใช้ได้ในชีวิต การทำงานประจำวัน

 

1. ใช้การจดโน้ตเพื่อติดตามบทผลการสนทนา

เชื่อกันอย่างแพร่หลายว่าผู้ชายไม่ใช่ผู้ฟังที่ดี การเหมารวมแบบนี้มักถูกถ่ายทอดให้เห็นเสมอ ผ่านละครซิทคอมต่างๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น ผู้ชายก็เป็นผู้ฟังที่ดีเช่นกัน เพียงแต่ พวกเขามักไม่ค่อยเข้าใจว่าฝ่ายผู้หญิงนั้นต้องการสื่ออะไรกันแน่?

จากการวิจัยพบว่า วิธีการฟังในแบบผู้ชายนั้นสำคัญที่ความชัดเจนและถอดความได้ ในขณะที่วิธีแบบผู้หญิงมักจะใส่ใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของผู้สื่อสาร ผู้ชายมักจะโต้ตอบ อย่างตรงไปตรงมา แต่ผู้หญิงมักจะเลือกใช้วิธีตอบรับอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ซึ่งผลการวิจัยนี้แสดงให้ เห็นว่าผู้นำชายมักฟังโดยมุ่งไปที่ประเด็นหลักของผู้ส่งสารเป็นสำคัญ  ขณะที่ผู้หญิงมักอยากรู้ว่าผู้ส่งสารรู้สึกอย่างไรมากกว่า เพราะทุกคนก็มีจุดมุ่งหมายในการฟังต่างกัน การรับสารจึงไม่สมบูรณ์ และทำให้ผู้ส่งสารรู้สึกไม่ได้รับความใส่ใจด้วย

การจดบันทึกและอีเมลช่วยเรื่องการสื่อสารได้ถ้านำไปใช้เพื่อติดตามผลการสนทนา ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งอีเมลด่วนเพื่อแจงเรื่องความรู้สึกและสรุปโครงร่างประเด็นสำคัญของข้อเรียกร้องที่ตกลงร่วมกันก่อนหน้านี้ ดังตัวอย่าง “ตามที่ได้บอกไว้จากการสนทนาของเรา ผม/ดิฉัน รับทราบถึงความผิดหวังของคุณเกี่ยวกับเหตุการที่เกิดขึ้น และความประสงค์ที่จะให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 ประการนี้…” ซึ่งวิธีการนี้ยังนำไปใช้บันทึกประกอบการสนทนาได้อีกด้วย เพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจประเด็นสนทนาและขั้นตอนการทำงานตรงกัน

2. ลองรับมือเรื่องอารมณ์ด้วยวิธีของผู้หญิง

โดยทั่วไปแล้วผู้ชายมักจะไม่ค่อยสนใจสังเกตหรือแสดงออกทางอารมณ์นัก ซึ่งการวิจัยนี้ พบว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างเห็นตรงกันว่า ในการเป็นผู้นำนั้น การควบคุมอารมณ์แบบนุ่มนวล ของผู้หญิง(รับรู้และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม) มีประสิทธิภาพมากกว่าการแสดงออก แบบตรงไปตรงมาของผู้ชาย (เพิกเฉยและเก็บงำอารมณ์เอาไว้)

การแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพไม่ได้หมายความว่าผู้นำคนนั้นจะต้องไร้ความรู้สึกราวกับหุ่นยนต์ การแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมจะช่วยคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่มีเหตุมีผล แต่การปิดกั้นความรู้สึกเอาไว้สามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แข็งกระด้างภายในที่ทำงานได้ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่ควรจะเกิดจำนวนมาก

ลองหันมาเรียนรู้การจัดการตามแบบผู้นำผู้หญิงบ้าง เมื่อผู้หญิงผู้คุยแลกเปลี่ยนอารมณ์ ความรู้สึกกัน คุณผู้ชายควรจะลองเข้าไปร่วมวงสนทนาและลองเปิดเผยความรู้สึกออกไปบ้าง วิธีการนี้จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือในการสื่อสารและส่งเสริมความเชื่อใจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของทีมงานที่มีประสิทธิภาพ

3. ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสนทนา

ผู้ชายมักจะพูดจาตรงไปตรงมามากกว่าผู้หญิง ผลการวิจัยยืนยันว่าผู้นำที่เป็นชายมักชอบ ใช้อำนาจควบคุมมากกว่า ซึ่งแม้ว่าจะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็อาจจะไม่ใช่กลยุทธ์ การสื่อสารที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามผู้ร่วมตอบแบบสำรวจของการวิจัยประเมินว่าการแสดงออกแบบผู้หญิงในด้านการ
บริหาร การแสดงความมั่นใจในตัวเอง วิธีแก้ปัญหาความขัดแย้ง  ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การสร้างสิ่งใหม่ๆ และการเป็นผู้ประกอบการ ล้วนมีประสิทธิภาพมากกว่าแบบของผู้ชาย  

การเป็นผู้นำในแบบผู้หญิงนั้นเน้นไปที่การทำงานร่วมกันมากกว่า ซึ่งผู้ชายก็สามารถเป็นผู้สื่อสาร
ที่ดีขึ้นได้ ถ้าลองทำตามวิธีเดียวกันกับผู้หญิง เมื่อต้องอภิปรายความคิด แผนการ โครงการต่างๆ จงพร้อมรับฟังการตอบรับของผู้เข้าร่วม เปิดโอกาสให้อีกฝ่าย ได้แสดงความคิดเห็นแทนที่จะพูด อยู่ฝ่ายเดียว

 

Source : Entrepreneur