24 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณเป็น”หัวหน้าที่ดี”

4497
Strelka Institute for Media, Architecture and Design/Flickr

การทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเป็นอะไรที่กดดันมาก หากคุณอยู่ในตำแหน่งบริหารจัดการ คงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถประเมินตนเองในสิ่งที่กำลังทำได้ ตัวอย่างเช่น คุณคิดว่าคุณเป็นหัวหน้าที่น่าเคารพและเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่? ลูกจ้างของคุณมีการตอบรับที่ดีกับการเป็นผู้นำของคุณหรือไม่? การตัดสินใจของคุณทำให้ใครบางคนไม่พอใจหรือไม่? คำถามเหล่านี้ยากที่จะหาคำตอบ

Strelka Institute for Media, Architecture and Design/Flickr
Strelka Institute for Media, Architecture and Design/Flickr

การเป็นหัวหน้าที่ดีนั้นมีความสำคัญต่อกิจการเป็นอย่างยิ่ง เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่ามีพนักงานกว่า 3 ใน 4 ที่ตัดสินใจลาออกเพราะมีหัวหน้าที่แย่ แล้วทำอย่างไรถึงจะเป็นหัวหน้าที่ดีได้ล่ะ?
วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ! 24 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเป็นหัวหน้าที่ดี

คุณไม่มีพนักงานคนโปรด

การเลือกปฏิบัติเป็นอาวุธร้ายแรงในการทำลายกำลังใจของพนักงานส่วนใหญ่ หากคุณแสดงออกว่าคุณมีพนักงานคนโปรด พนักงานคนอื่นอาจจะรู้สึกถูกเอาเปรียบ และไม่พยายามทำงานให้คุณพึงพอใจได้

ให้เกียรติพนักงานของคุณ

เป็นเรื่องที่แย่ที่หัวหน้าบางคนชอบดูถูกเหยียดหยามลูกน้องของตัวเอง โดยคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นจะช่วยผลักดันพวกเขา แต่ส่วนใหญ่แล้ววิธีการแบบนี้มันใช่ไม่ได้ผล วิธีง่ายๆที่ได้ผลจริงก็คือ คุณควรให้เกียรติพวกเขา เอาใจใส่พวกเขาเหมือนคนใกล้ชิด แล้วพนักงานของคุณก็จะปฏิบัติแบบนี้กับคุณเช่นเดียวกัน

คุณกล้าลองสิ่งใหม่ๆ

หัวหน้าที่ดีมักเลือกใช้รูปแบบการทำงานหลักที่เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่หัวหน้าที่ดีที่สุดมักจะเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้ทดลองและสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ๆ เพื่อทางเลือกที่ดีกว่า

ให้ทุกคนรับผิดชอบ

การให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นสิ่งสำคัญในการผลักดันลูกน้องให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสังคมที่ดีในที่ทำงาน

รวมถึงตัวคุณเองด้วย

หัวหน้าที่ดีก็ต้องไม่มองหาแพะรับบาปหรือหาข้อแก้ตัวเมื่อเกิดข้อผิดพลาด แท้ที่จริงแล้ว ผู้บริหารที่มีประสบการณ์มักจะยอมรับข้อผิดพลาดด้วยตนเอง เพื่อทำให้ลูกน้องรู้สึกปลอดภัยในการทำงาน

คุณพูดด้วยน้ำเสียงน่ารับฟังเมื่อต้องสั่งงานลูกน้อง

หัวหน้าบางคนชอบขึ้นเสียงใส่ลูกน้อง และพูดเสียงดังเพื่อแสดงอำนาจข่มขู่ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย วิธีการที่ดี คุณควรพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะน่ารับฟัง

คุณให้คำแนะนำที่ดีกับลูกน้อง

หัวหน้าควรสร้างความไว้วางใจกับลูกน้อง ด้วยการให้คำแนะนำและแนวคิดอย่างเหมาะสม คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณก็ไม่ควรละเลยลูกน้องของคุณเช่นกัน

คุณช่วยพวกเขากำจัดอุปสรรค

หัวหน้าที่แย่มักโยนอุปสรรคต่างๆมากมายให้ลูกน้อง ซึ่งทำให้ลูกน้องทำงานได้ลำบาก แต่หัวหน้าที่ดีควรให้ความสำคัญกับลูกน้อง เพื่อให้พวกเขาทำงานได้สะดวกขึ้น

คุณเป็นเหมือนโค้ชที่ดี

หัวหน้าที่ดีก็เหมือนกับโค้ชที่ดีนั่นแหละ พวกเขามีความน่าเชื่อถือและให้ทั้งคำชมและคำวิพากษ์วิจารณ์ตามความเหมาะสม เพื่อให้ลูกจ้างทำงานได้อย่างดีที่สุด

คุณให้ความคาดหวังได้อย่างเหมาะสม

หัวหน้าที่แย่มักทำให้ลูกน้องผิดหวังหรือสับสน โดยมักให้ความหวังที่ผิดๆ เกี่ยวกับสภาพของที่ทำงาน ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้าบางคนที่บอกว่าบริษัทกำลังไปในทิศทางที่ดี แต่กลับไล่ลูกน้องบางคนออกเสียอย่างนั้น ซึ่งนายจ้างที่ดีจะต้องซื่อสัตย์ จริงใจ และเป็นคนเปิดเผย

คุณให้ฟีดแบ็ค(Feedback)กับลูกจ้าง

ลูกน้องที่ขยันและทำงานได้ดีมักต้องการคำติชม หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  “ฟีดแบ็ค” เพื่อที่จะสามารถเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองได้ต่อไป เพราะฉะนั้นหัวหน้าที่ดีจะให้คำติชมลูกจ้างได้อย่างบริสุทธิ์ใจ

คุณทำให้ที่ทำงานปลอดโปร่ง

บรรยากาศที่ปลอดโปร่งทำให้คนทำงานด้วยมีความสุข

คุณมักถามความเห็นของลูกจ้าง

ลูกจ้างต้องการความใส่ใจ ถึงแม่ว่าคุณมีอำนาจทั้งหมดในการตัดสินใจ แต่บางทีหากสถานการณ์ร้องขอ หัวหน้าที่ดีก็ควรถามความคิดเห็นในมุมมองของลูกน้องด้วย

คุณมักอธิบายความคิดของคุณให้ลูกน้องฟัง

หัวหน้าที่ดีจะไม่คิดว่าลูกน้องอ่านใจของเขาออก โดยพวกเขาจะตั้งเป้าหมายและวางแผนผังความคิดที่ดีแล้วนำมาอธิบายให้กับลูกน้องฟัง โดยให้ทั้งความรู้และวิธีการที่จะทำให้งานนั้นให้สำเร็จ

คุณใส่ใจกับวิธีแก้ปัญหา

เมื่อเกิดปัญหาขึ้น หัวหน้าที่แย่มักจะโทษผู้อื่น แต่หัวหน้าที่ดีมักเลือกที่จะโฟกัสกับวิธีแก้ไขปัญหา แทนที่จะหาคนผิด

คุณสร้างความท้าทายให้แก่ลูกน้อง

ความน่าเบื่อจะทำให้คนไม่มีความสุขกับงานที่ทำ ดังนั้นหัวหน้าที่ดีควรให้ลูกน้องได้ทำงานที่ท้าทายความสามารถของพวกเขาอยู่เสมอ

คุณไม่จู้จี้จุกจิก แต่ก็ไม่ปล่อยมากจนเกินไป

ลองสำรวจความสามารถของลูกน้องแต่ละคน แล้วมอบหมายงานให้ตามความเหมาะสม เช่นลองถามตัวคุณเองว่า “คุณควรให้เขาทำงานเพิ่มขึ้นไหม?” หรือ “มีงานอะไรที่คุณควรมอบหมายให้กับเขา?”

คุณเข้าถึงลูกน้องคุณ

คุณควรเข้าไปพูดคุยกับลูกน้อง เพื่อที่จะเข้าใจและรับทราบว่าพวกเขาต้องการอะไร และมีปัญหาอะไรบ้าง

คุณมีอารมณ์ขัน

ถึงแม้ว่ากาลเทศะในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญ หัวหน้าที่ดีแม้จะจริงจังกับงานแต่จะไม่ถือตัวมากเกินไป เป็นสิ่งที่ดีที่จะเข้าไปพูดคุยขำขันกับลูกน้องบ้าง

คุณใส่ใจเรื่องเป้าหมายและความฝันของลูกน้อง

หัวหน้าที่ดีมักลงทุนลงแรงช่วยลูกน้อง นั่นหมายความว่าเขาจะให้ความสำคัญกับความฝันและจุดมุ่งหมายในชีวิตของลูกน้องด้วย

คุณทำดีกับลูกน้อง ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการให้เขาชอบ

การทำดีกับลูกน้องมากไปอาจเป็นการทำร้ายพวกเขาก็ได้ หัวหน้าที่ไม่จริงใจมักทำให้ลูกน้องชอบ แต่เวลาแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาก็เหมือนการหักหลังกัน เพราะฉะนั้นอย่าทำดีเพียงเพราะต้องการหนีความขัดแย้ง คุณควรแสดงความจริงใจและเป็นตัวของตัวเอง เพียงแค่นี้คุณก็ได้ใจลูกน้องแล้ว

คุณเป็นผู้ฟังที่ดี

ลูกจ้างหลายๆ คนมักมีหัวหน้าที่เป็นคนพูดมาก และน้อยนักที่จะมีหัวหน้าที่เป็นผู้ฟังทีดี ซึ่งหัวหน้าที่เป็นผู้ฟังทีดีมักได้รับการยกย่องมากกว่า เพราะการเป็นผู้ฟังที่ดีทำให้ลูกน้องเห็นว่าคุณกำลังใส่ใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ

คุณให้ความสนใจในชีวิตของลูกน้องของคุณ

นายจ้างที่ดีจะไม่ล้ำเส้นมากเกินไป อย่างไรก็ตามเขาจะใส่ใจสักถามถึงเรื่องราวชีวิตทั่วๆ ไป เช่น เรื่องแพลนวันหยุด, เรื่องลูกและเรื่องพ่อแม่ เป็นต้น การให้ความสนใจในสิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกจ้างเห็นว่านายจ้างของเขาใส่ใจพวกเขาจริงๆ ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีมิตรภาพที่ดีและสามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

คุณปรับตัวเข้าหาลูกน้อง

ลูกน้องแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการวางตัวแบบเดียวกับทุกคนอาจไม่ใช่ทางที่ดีนักในที่ทำงาน หัวหน้าที่ดีจะสามารถปรับตัวเข้าหาลูกน้องได้ ทำให้พวกเขาสามารถเติมเต็มความต้องการของลูกน้องได้อย่างทั่วถึง

 

Source : Business Insider