สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอาจจะได้มาแบบฟรีๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ใช้เวลาและความพยายาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราจะต้องเรียนรู้การใช้ทักษะชีวิตใหม่ๆ และเมื่อเว็บไซต์ Quora ได้ตั้งคำถามว่า “ทักษะใดบ้างที่ฝึกฝนได้ยาก แต่กลับมีประโยชน์มากมายมหาศาล?” ผู้คนก็ต่างพากันตอบต่างๆ นาๆ โดยเราได้สรุปรวบรวมความเห็นที่เป็นประโยชน์มาก ๆ มา 17 ทักษะ ดังนี้
1. การฝึกเป็นคนเอาใจใส่
การเอาใจใส่เป็นทักษะสำคัญขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่ควรจะเรียนรู้ไว้ ยิ่งเอาใจใส่ ผู้คนก็ยิ่งเห็นคุณค่าในตัวเรามากขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งยังมีประโยชน์ในด้านการทำธุรกิจกิจการยุคใหม่นี้ด้วย เพราะความเอาใจใส่ก็คือการรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ลูกค้ารู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยส่งผลให้ยอดขายและบริการมีผลลัพธ์ที่ดีตามไปด้วย
และการเอาใจใส่ร่วมกันภายในทีม ก็สามารถกระตุ้นให้ผู้คนพยายามมากขึ้นได้ ทั้งยังทำให้พนักงานมีแรงผลักดันในการทำงาน ลดทิฐิลง เพราะพวกเขารู้สึกว่างานที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้น มีอะไรที่สำคัญมากกว่าเงินทองเสียอีก
“การเอาใจใส่ผู้อื่น จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในชีวิตยิ่งกว่าที่โรงเรียนหรือปริญญาใดๆ จะช่วยได้” – MARIAN WRIGHT EDELMAN
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 ลักษณะนิสัย ของคนที่เป็นที่รักของใครต่อใคร
2. การฝึกนอนและตื่นให้เป็นเวลา
มีคำแนะนำมากมายนับไม่ถ้วนที่แนะนำเรื่องการควบคุมการนอนให้มีประสิทธิภาพ แต่ทว่า มันก็เป็นเรื่องยากที่จะติดตามผลลัพธ์ได้ ดังนั้นเอาเป็นว่า คุณลองฝึกตั้งกฏให้กับตัวเอง ฝึกควบคุมตนเองให้นอนและตื่นเป็นเวลา สิ่งนี้แหละที่จะช่วยให้คุณมีช่วงเวลาพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมได้ เพราะมีการศึกษาวิจัยจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับให้เป็นเวลาทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นและตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดชื่นแจ่มใสด้วย
[บทความที่เกี่ยวข้อง] ตื่นนอนตอนตี 5 ดีกับร่างกายและความสำเร็จของเราอย่างไร?
3. การฝึกบริหารเวลา
การบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นทักษะที่มีมูลค่าสูงที่สุดอย่างหนึ่งของนายจ้าง แม้ว่าจะไม่มีวิธีการที่ถูกต้องทีเดียวทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญคือ คุณต้องฝึกหาเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ และยึดหลักปฏิบัตินั้นไว้ให้ดี
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 วิธีการบริหารเวลาของผู้ประสบความสำเร็จ
4. การฝึกขอความช่วยเหลือ
เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ แล้วขอให้ใครช่วยก็เป็นเรื่องยากเสียเหลือเกิน เพราะไม่มีใครอยากถูกมองว่าตนเองอ่อนแอและไร้ความสามารถ แต่ทว่า ความจริงแล้วหากเราฝึกขอความช่วยเหลือให้เป็น พูดโน้มน้าวใจให้เก่ง ภาระงานหนักทุกอย่างที่คุณแบกไว้จะผ่อนเบาลงทันที แต่ถ้าหากว่าคุณยังดึงดันไม่ขอความช่วยเหลือจากใครเลย ความเครียด จะโหมกระหน่ำเข้ามาหาคุณ และทำลายสุขภาพของคุณได้
จากการวิจัยล่าสุดจาก Harvard Business School ชี้ว่า การขอความช่วยเหลือจะทำให้คุณดูมีความสามารถมากขึ้น และไม่ได้น้อยลงเลย อีกทั้งเมื่อคุณขอคำแนะนำจากบุคคลต่างๆ คุณสามารถประเมินได้ว่าพวกเขามีความฉลาดและความชำนาญอยู่ในระดับใด เพื่อที่คุณจะได้ฝึกฝนตนเองให้เก่งเท่าเขา หรือเก่งกว่าเขาให้ได้
5. การฝึกพูดกับตนเองในเชิงบวก
ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไร แต่สิ่งที่คุณคิดและพูดเกี่ยวกับตัวคุณเองต่างหากที่สำคัญ และต้องใช้เวลาในการจะสร้างระดับความมั่นใจ เพราะคุณต้องเชื่อมั่นในตัวคุณเองก่อนถึงแม้จะไม่มีใครเชื่อคุณก็ตาม
Betsy Myers ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ The Center for Women and Business ของมหาวิทยาลัย Bentley กล่าวว่า ในตรงกันข้าม การพูดถึงตัวเองในเชิงลบ ก็จะลดความเชื่อมั่นในตัวเองของคุณอย่างช้าๆ
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 4 วิธีง่ายๆ ขจัด”ความคิดในแง่ลบ”ให้หมดไป
6. การฝึกความสม่ำเสมอ
ไม่ว่าคุณจะกำลังพยายามทำสิ่งใด กำลังเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือกำลังทำงานในโครงการที่สำคัญๆ ก็ตาม จงจำไว้ความสม่ำเสมอนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ความสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ช่วยรักษาความสำเร็จให้คงอยู่ต่อไปได้
คนส่วนใหญ่มักจะหยุดทำงานหนักเวลาพวกเขามาถึงจุดสูงสุด แต่การจะรักษาความสำเร็จนี้เอาไว้ได้ จำเป็นทำงานให้หนักขึ้นและมีความสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย อย่างเจ้าสัวบ้านเราหลาย ๆ ท่านที่ติดอันดับต้นๆ ของมหาเศรษฐีไทยก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ถึงแม้จะล่วงเลยผ่านวัยเกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังรักที่จะทำงานหนักและรักษาความสม่ำเสมอต่อไป
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 วิธี “สร้างวินัยให้กับตนเอง” เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ
7. การฝึกใส่ใจเรื่องของตัวเอง
การสนใจแต่เรื่องของคนอื่นมากเกินไปก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง แถมเสียเวลาด้วย เพราะเราแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นหรือตัดสินในเรื่องที่คนอื่นเขาทำได้เลย ถึงแม้ว่าคุณอาจจจะคิดถูกก็ตาม ดังนั้น การหันมาฝึกใส่ใจเรื่องของตัวเองด้วยจึงนับเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่น้อย เพื่อที่คุณจะได้พัฒนาตนเองในทุกด้านที่ยังบกพร่องให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 4 วิธีที่ช่วยดึง ‘ศักยภาพอันน่าทึ่ง’ ในตัวคุณออกมา
8. การฝึกรับฟัง
Nicole Lipkin ผู้เขียนหนังสือ “What Keeps Leaders Up At Night” ได้กล่าวกับทาง Business Insider ว่าส่วนมาก เวลาเราอยู่ในที่ทำงาน เรามักจะหมดไปกับสิ่งที่ต้องทำอย่าง การตอบแชท ตอบอีเมล์ และเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นตลอดเวลา สมองของเราสามารถทนต่อการรับข้อมูลมากๆ ได้ แต่สุดท้ายมันก็จะเกินรับไหว” ซึ่งเธอได้เผยเคล็ดลับหนึ่งสำหรับการฝึกรับฟัง ก็คือการฝึกพูดซ้ำในสิ่งที่คุณได้ยินจากคนอื่น “ทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายขึ้นเมื่อทุกคนคิดและเข้าใจตรงกัน” เธอกล่าว
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 ข้อปฏิบัติง่ายๆ ในการเป็นผู้ฟังที่ดี
9. การรู้ว่าเมื่อไรควรหยุดพูด
คุณไม่สามารถเดินไปรอบๆ และบ่นให้กับทุกสิ่งที่คุณคิดว่าไม่เหมาะสมได้ บางครั้งคุณก็ต้องรู้ว่าตอนไหนควรที่จะหยุดพูด
มีหลายกรณีศึกษา ที่ว่าด้วยเรื่องการเก็บคำพูดไว้กับตัวเอง นับเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเมื่อเราโกรธ อารมณ์เสีย กระวนกระวายใจหรือวิตกกังวล เราจะเปิดเผยสิ่งต่างๆ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจของเราออกมา และต่อมาคุณมักจะเสียใจกับคำพูดที่ได้พูดออกไป
การปิดปากเงียบคุณเมื่อคุณไม่อยู่ในอารมณ์ปกติ เป็นทักษะที่มีค่าที่สุดในการเรียนรู้และแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเช่นกัน
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 วิธีฝึกฝนตนเองเพื่อสร้างเสริมความฉลาดทางด้านอารมณ์
10. เลิกซุปซิปนินทา
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ ความสัมพันธ์ และสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีคือ ความไว้วางใจ
หนึ่งพฤติกรรมที่ง่ายต่อการสูญเสียความไว้วางใจก็คือ การนินทาคนอื่นลับหลัง การเรียนรู้ที่จะไม่ซุบซิบนินทาเป็นเรื่องยากที่จะทำ เพราะมันหมายถึงหัวข้อสนทนาหลักได้หายไป ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงการนินทาเราอาจจะแค่ต้องบอกกับพวกเขาตรงๆ ไปเลยว่า “เราพูดกันเรื่องอื่นได้ไหม?” แม้อาจจะดูหยาบคายไปนิด แต่นั่นจะทำให้คุณได้รับความไว้วางใจอย่างมากเลยล่ะ
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 10 พฤติกรรมไม่น่าคบหา ที่คุณอาจทำโดยไม่รู้ตัว
11. การมีความสุขกับปัจจุบัน
งานวิจัยเกี่ยวความสุขของ Matt Killingsworth ที่เขาได้ขึ้นพูดใน TED Talks นั้นชี้ให้เห็นว่าเรามักจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับช่วงเวลาปัจจุบันของเรา เขาบอกว่า กว่า 47% ของเวลาทั้งหมด คนมักคิดถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตรงหน้า และนี่แหละที่เป็นการทำร้ายความสุขของเรา
Matt กล่าวว่า “คนจะมีความสุขน้อยลงเมื่อพวกเขากำลังคิดถึงเรื่องอื่น ไม่ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น คนส่วนใหญ่ไม่อยากที่จะเดินทางไปทำงานมากนัก การทำงานเป็นกิจกรรมที่มีความสุขน้อยที่สุดสำหรับพวกเขา และพวกเขาจะมีความสุขมากกว่า เมื่อได้คิดถึงอย่างอื่นแทนที่จะเป็นเรื่องงาน”
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 10 TED Talks ที่บอกเล่าวิธีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข (มีซับไทย)
13. การฝึกควบคุมความคิดของตัวเอง
การทำสิ่งที่คุณต้องการทำ และทำมันสิ่งนั้นให้สำเร็จนั้น คุณต้องมีสติ มีความท้าทายในการควบคุมความคิดของตัวเอง นั่นก็คือ ตัวของเราในปัจจุบันเป็นผลลัพธ์จากการกระทำในอดีต และความคิดทั้งหมดของเราก็เป็นผลมาจากสิ่งนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม อดีตไม่มีทางเท่ากับอนาคต ยิ่งคุณฝึกควบคุมความคิดแล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แน่นอนว่าอนาคตของคุณก็จะดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 วิธี “พลิกความคิด” ให้ทุกสิ่งสำเร็จได้ดั่งใจหวัง!
14. การฝึกเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ
ทักษะนี้ไม่ใช่แค่เปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุยและได้รับโอกาสใหม่ๆ เท่านั้น
Csigi ชาวฮังการีและผู้ร่วมก่อตั้ง Metaphor English และเป็นซีอีโอ ของบล็อก Balázs Csigi กล่าวว่า
“การเรียนรู้ภาษาอังกฤษถือ เป็นของขวัญที่น่าทึ่งในชีวิตของผม ผมได้รับความรู้ใหม่ๆ และแนวความคิดใหม่ๆ มากมาย” Csigi กล่าวต่อว่า “เทคนิคสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอื่น ก็คือการเรียนรู้วัฒนธรรม นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กลับก็คุ้มค่ามากเลยทีเดียวล่ะ”
15. การกล้าพูด
การพูดขึ้นในที่สาธารณะอาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเราหลายๆ คน แม้แต่นักลุงทุนอย่าง Warren Buffett ก็กล่าวว่า เขาเคยกลัวการพูดในที่สาธารณะมาก เพราะเวลาเขากลัว เขาจะตื่นเต้นจนอาเจียนออกมา โดยเขากล่าวกับนักเขียนชีวประวัติของเขาในหนังสือ “The Snowball: Warren Buffett และ Business of Life” ว่าในคอร์สการฝึกพูด Dale Carnegie นั้น เขาพยายามฝึกพูดอย่างมากกับเพื่อนร่วมคอร์ส จนเขาสามารถเอาชนะความกลัวได้สำเร็จ บัฟเฟตต์เสริมทิ้งท้ายว่า การฝึกปฏิบัติเท่านั้นที่จะช่วยให้เราได้ทักษะสำคัญนี้มาได้ ขอเพียงแค่หมั่นฝึกซ้อมและลงมือทำมัน
[บทความที่เกี่ยวข้อง] 6 เคล็ดลับ ช่วยให้คุณกลายเป็น “คนกล้าพูด” ได้อย่างมั่นใจ
16. การซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น
การซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นนั้นอาจเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจบ้างก็จริง แต่เชื่อเถอะว่าทักษะนี้สำคัญมากในการสร้างความเชื่อใจระยะยาว Sheryl Sandberg COO ของบริษัท Facebook เธอส่งเสริมเรื่องความซื่อสัตย์นี้เป็นอย่างมาก เพราะว่าเธอไม่ชอบการโกหก และเธอพร้อมที่จะอารมณ์เสียได้ทุกเมื่อเกิดความไม่ซื่อสัตย์ขึ้นในองค์กร ความจริงสามารถช่วยให้เราได้รับสิ่งดีๆ มากมายเข้ามาในชีวิต ทั้งความถ่อมตน การได้รับความช่วยเหลือ ความใกล้ชิด และการเป็นที่รักของใครๆ
17. การซื่อสัตย์ต่อตนเอง
การซื่อสัตย์ต่อตนเองนั้น ก็คือการเปิดใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก้าวข้ามมันไป ซึ่งความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์นั้น ก็คือการที่ไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง หรือที่การกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าตนไม่ได้ผิดพลาด
Ginni Rometty ซีอีโอของ IBM เคยกล่าวกับนิตยสารฟอร์บส์ว่า “ไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการไม่รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดอีกแล้วล่ะ”
[บทความที่เกี่ยวข้อง] วิธีตักตวงประโยชน์จาก “ความผิดพลาด” ให้คุ้มค่าที่สุด โดย John C. Maxwell
Source: Time