17 ทักษะชีวิตที่ “ฝึกฝนยาก” แต่มีประโยชน์มหาศาลและอยู่กับเราไปตลอด

53271

สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอาจจะได้มาแบบฟรีๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ใช้เวลาและความพยายาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราจะต้องเรียนรู้การใช้ทักษะชีวิตใหม่ๆ และเมื่อเว็บไซต์ Quora ได้ตั้งคำถามว่า “ทักษะใดบ้างที่ฝึกฝนได้ยาก แต่กลับมีประโยชน์มากมายมหาศาล?” ผู้คนก็ต่างพากันตอบต่างๆ นาๆ โดยเราได้สรุปรวบรวมความเห็นที่เป็นประโยชน์มาก ๆ มา 17 ทักษะ ดังนี้

1. การฝึกเป็นคนเอาใจใส่

การเอาใจใส่เป็นทักษะสำคัญขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่ควรจะเรียนรู้ไว้ ยิ่งเอาใจใส่ ผู้คนก็ยิ่งเห็นคุณค่าในตัวเรามากขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งยังมีประโยชน์ในด้านการทำธุรกิจกิจการยุคใหม่นี้ด้วย เพราะความเอาใจใส่ก็คือการรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ลูกค้ารู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยส่งผลให้ยอดขายและบริการมีผลลัพธ์ที่ดีตามไปด้วย

และการเอาใจใส่ร่วมกันภายในทีม ก็สามารถกระตุ้นให้ผู้คนพยายามมากขึ้นได้ ทั้งยังทำให้พนักงานมีแรงผลักดันในการทำงาน ลดทิฐิลง เพราะพวกเขารู้สึกว่างานที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้น มีอะไรที่สำคัญมากกว่าเงินทองเสียอีก

“การเอาใจใส่ผู้อื่น จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในชีวิตยิ่งกว่าที่โรงเรียนหรือปริญญาใดๆ จะช่วยได้” – MARIAN WRIGHT EDELMAN

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 ลักษณะนิสัย ของคนที่เป็นที่รักของใครต่อใคร

2. การฝึกนอนและตื่นให้เป็นเวลา

มีคำแนะนำมากมายนับไม่ถ้วนที่แนะนำเรื่องการควบคุมการนอนให้มีประสิทธิภาพ แต่ทว่า มันก็เป็นเรื่องยากที่จะติดตามผลลัพธ์ได้ ดังนั้นเอาเป็นว่า คุณลองฝึกตั้งกฏให้กับตัวเอง ฝึกควบคุมตนเองให้นอนและตื่นเป็นเวลา สิ่งนี้แหละที่จะช่วยให้คุณมีช่วงเวลาพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมได้ เพราะมีการศึกษาวิจัยจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับให้เป็นเวลาทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นและตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดชื่นแจ่มใสด้วย

[บทความที่เกี่ยวข้อง] ตื่นนอนตอนตี 5 ดีกับร่างกายและความสำเร็จของเราอย่างไร?

3. การฝึกบริหารเวลา

การบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นทักษะที่มีมูลค่าสูงที่สุดอย่างหนึ่งของนายจ้าง แม้ว่าจะไม่มีวิธีการที่ถูกต้องทีเดียวทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญคือ คุณต้องฝึกหาเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณ และยึดหลักปฏิบัตินั้นไว้ให้ดี

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 วิธีการบริหารเวลาของผู้ประสบความสำเร็จ

4. การฝึกขอความช่วยเหลือ

เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ แล้วขอให้ใครช่วยก็เป็นเรื่องยากเสียเหลือเกิน เพราะไม่มีใครอยากถูกมองว่าตนเองอ่อนแอและไร้ความสามารถ แต่ทว่า ความจริงแล้วหากเราฝึกขอความช่วยเหลือให้เป็น พูดโน้มน้าวใจให้เก่ง ภาระงานหนักทุกอย่างที่คุณแบกไว้จะผ่อนเบาลงทันที แต่ถ้าหากว่าคุณยังดึงดันไม่ขอความช่วยเหลือจากใครเลย ความเครียด จะโหมกระหน่ำเข้ามาหาคุณ และทำลายสุขภาพของคุณได้

จากการวิจัยล่าสุดจาก Harvard Business School ชี้ว่า การขอความช่วยเหลือจะทำให้คุณดูมีความสามารถมากขึ้น และไม่ได้น้อยลงเลย อีกทั้งเมื่อคุณขอคำแนะนำจากบุคคลต่างๆ คุณสามารถประเมินได้ว่าพวกเขามีความฉลาดและความชำนาญอยู่ในระดับใด เพื่อที่คุณจะได้ฝึกฝนตนเองให้เก่งเท่าเขา หรือเก่งกว่าเขาให้ได้

5. การฝึกพูดกับตนเองในเชิงบวก

ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไร แต่สิ่งที่คุณคิดและพูดเกี่ยวกับตัวคุณเองต่างหากที่สำคัญ และต้องใช้เวลาในการจะสร้างระดับความมั่นใจ เพราะคุณต้องเชื่อมั่นในตัวคุณเองก่อนถึงแม้จะไม่มีใครเชื่อคุณก็ตาม

Betsy Myers ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ The Center for Women and Business ของมหาวิทยาลัย Bentley กล่าวว่า ในตรงกันข้าม การพูดถึงตัวเองในเชิงลบ ก็จะลดความเชื่อมั่นในตัวเองของคุณอย่างช้าๆ

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 4 วิธีง่ายๆ ขจัด”ความคิดในแง่ลบ”ให้หมดไป

6. การฝึกความสม่ำเสมอ

ไม่ว่าคุณจะกำลังพยายามทำสิ่งใด กำลังเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือกำลังทำงานในโครงการที่สำคัญๆ ก็ตาม จงจำไว้ความสม่ำเสมอนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ความสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ช่วยรักษาความสำเร็จให้คงอยู่ต่อไปได้

คนส่วนใหญ่มักจะหยุดทำงานหนักเวลาพวกเขามาถึงจุดสูงสุด แต่การจะรักษาความสำเร็จนี้เอาไว้ได้ จำเป็นทำงานให้หนักขึ้นและมีความสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย อย่างเจ้าสัวบ้านเราหลาย ๆ ท่านที่ติดอันดับต้นๆ ของมหาเศรษฐีไทยก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ถึงแม้จะล่วงเลยผ่านวัยเกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังรักที่จะทำงานหนักและรักษาความสม่ำเสมอต่อไป

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 8 วิธี “สร้างวินัยให้กับตนเอง” เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ

7. การฝึกใส่ใจเรื่องของตัวเอง

การสนใจแต่เรื่องของคนอื่นมากเกินไปก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง แถมเสียเวลาด้วย เพราะเราแทบไม่มีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นหรือตัดสินในเรื่องที่คนอื่นเขาทำได้เลย ถึงแม้ว่าคุณอาจจจะคิดถูกก็ตาม ดังนั้น การหันมาฝึกใส่ใจเรื่องของตัวเองด้วยจึงนับเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่น้อย เพื่อที่คุณจะได้พัฒนาตนเองในทุกด้านที่ยังบกพร่องให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 4 วิธีที่ช่วยดึง ‘ศักยภาพอันน่าทึ่ง’ ในตัวคุณออกมา

8. การฝึกรับฟัง

Nicole Lipkin  ผู้เขียนหนังสือ What Keeps Leaders Up At Nightได้กล่าวกับทาง Business Insider ว่าส่วนมาก เวลาเราอยู่ในที่ทำงาน เรามักจะหมดไปกับสิ่งที่ต้องทำอย่าง การตอบแชท ตอบอีเมล์ และเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นตลอดเวลา สมองของเราสามารถทนต่อการรับข้อมูลมากๆ ได้ แต่สุดท้ายมันก็จะเกินรับไหว” ซึ่งเธอได้เผยเคล็ดลับหนึ่งสำหรับการฝึกรับฟัง ก็คือการฝึกพูดซ้ำในสิ่งที่คุณได้ยินจากคนอื่น “ทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายขึ้นเมื่อทุกคนคิดและเข้าใจตรงกัน” เธอกล่าว

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 ข้อปฏิบัติง่ายๆ ในการเป็นผู้ฟังที่ดี

9. การรู้ว่าเมื่อไรควรหยุดพูด

คุณไม่สามารถเดินไปรอบๆ และบ่นให้กับทุกสิ่งที่คุณคิดว่าไม่เหมาะสมได้ บางครั้งคุณก็ต้องรู้ว่าตอนไหนควรที่จะหยุดพูด

มีหลายกรณีศึกษา ที่ว่าด้วยเรื่องการเก็บคำพูดไว้กับตัวเอง นับเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเมื่อเราโกรธ  อารมณ์เสีย กระวนกระวายใจหรือวิตกกังวล เราจะเปิดเผยสิ่งต่างๆ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจของเราออกมา และต่อมาคุณมักจะเสียใจกับคำพูดที่ได้พูดออกไป

การปิดปากเงียบคุณเมื่อคุณไม่อยู่ในอารมณ์ปกติ เป็นทักษะที่มีค่าที่สุดในการเรียนรู้และแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเช่นกัน

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 วิธีฝึกฝนตนเองเพื่อสร้างเสริมความฉลาดทางด้านอารมณ์

10. เลิกซุปซิปนินทา

สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ ความสัมพันธ์ และสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีคือ ความไว้วางใจ

หนึ่งพฤติกรรมที่ง่ายต่อการสูญเสียความไว้วางใจก็คือ การนินทาคนอื่นลับหลัง การเรียนรู้ที่จะไม่ซุบซิบนินทาเป็นเรื่องยากที่จะทำ เพราะมันหมายถึงหัวข้อสนทนาหลักได้หายไป ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงการนินทาเราอาจจะแค่ต้องบอกกับพวกเขาตรงๆ ไปเลยว่า “เราพูดกันเรื่องอื่นได้ไหม?” แม้อาจจะดูหยาบคายไปนิด แต่นั่นจะทำให้คุณได้รับความไว้วางใจอย่างมากเลยล่ะ

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 10 พฤติกรรมไม่น่าคบหา ที่คุณอาจทำโดยไม่รู้ตัว

11. การมีความสุขกับปัจจุบัน

งานวิจัยเกี่ยวความสุขของ Matt Killingsworth ที่เขาได้ขึ้นพูดใน TED Talks นั้นชี้ให้เห็นว่าเรามักจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับช่วงเวลาปัจจุบันของเรา เขาบอกว่า กว่า 47% ของเวลาทั้งหมด คนมักคิดถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตรงหน้า และนี่แหละที่เป็นการทำร้ายความสุขของเรา

Matt กล่าวว่า “คนจะมีความสุขน้อยลงเมื่อพวกเขากำลังคิดถึงเรื่องอื่น ไม่ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น คนส่วนใหญ่ไม่อยากที่จะเดินทางไปทำงานมากนัก การทำงานเป็นกิจกรรมที่มีความสุขน้อยที่สุดสำหรับพวกเขา และพวกเขาจะมีความสุขมากกว่า เมื่อได้คิดถึงอย่างอื่นแทนที่จะเป็นเรื่องงาน”

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 10 TED Talks ที่บอกเล่าวิธีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข (มีซับไทย)

13. การฝึกควบคุมความคิดของตัวเอง

การทำสิ่งที่คุณต้องการทำ และทำมันสิ่งนั้นให้สำเร็จนั้น คุณต้องมีสติ มีความท้าทายในการควบคุมความคิดของตัวเอง นั่นก็คือ ตัวของเราในปัจจุบันเป็นผลลัพธ์จากการกระทำในอดีต และความคิดทั้งหมดของเราก็เป็นผลมาจากสิ่งนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม อดีตไม่มีทางเท่ากับอนาคต ยิ่งคุณฝึกควบคุมความคิดแล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แน่นอนว่าอนาคตของคุณก็จะดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 7 วิธี “พลิกความคิด” ให้ทุกสิ่งสำเร็จได้ดั่งใจหวัง!

14. การฝึกเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ

ทักษะนี้ไม่ใช่แค่เปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุยและได้รับโอกาสใหม่ๆ เท่านั้น

Csigi ชาวฮังการีและผู้ร่วมก่อตั้ง Metaphor English และเป็นซีอีโอ ของบล็อก Balázs Csigi กล่าวว่า

“การเรียนรู้ภาษาอังกฤษถือ เป็นของขวัญที่น่าทึ่งในชีวิตของผม ผมได้รับความรู้ใหม่ๆ และแนวความคิดใหม่ๆ มากมาย” Csigi กล่าวต่อว่า “เทคนิคสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอื่น ก็คือการเรียนรู้วัฒนธรรม นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กลับก็คุ้มค่ามากเลยทีเดียวล่ะ”

15. การกล้าพูด

การพูดขึ้นในที่สาธารณะอาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเราหลายๆ คน แม้แต่นักลุงทุนอย่าง Warren Buffett ก็กล่าวว่า เขาเคยกลัวการพูดในที่สาธารณะมาก เพราะเวลาเขากลัว เขาจะตื่นเต้นจนอาเจียนออกมา โดยเขากล่าวกับนักเขียนชีวประวัติของเขาในหนังสือ “The Snowball: Warren Buffett และ Business of Life” ว่าในคอร์สการฝึกพูด Dale Carnegie นั้น เขาพยายามฝึกพูดอย่างมากกับเพื่อนร่วมคอร์ส จนเขาสามารถเอาชนะความกลัวได้สำเร็จ บัฟเฟตต์เสริมทิ้งท้ายว่า การฝึกปฏิบัติเท่านั้นที่จะช่วยให้เราได้ทักษะสำคัญนี้มาได้ ขอเพียงแค่หมั่นฝึกซ้อมและลงมือทำมัน

[บทความที่เกี่ยวข้อง] 6 เคล็ดลับ ช่วยให้คุณกลายเป็น “คนกล้าพูด” ได้อย่างมั่นใจ

16. การซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น

การซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นนั้นอาจเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจบ้างก็จริง แต่เชื่อเถอะว่าทักษะนี้สำคัญมากในการสร้างความเชื่อใจระยะยาว Sheryl Sandberg COO ของบริษัท Facebook เธอส่งเสริมเรื่องความซื่อสัตย์นี้เป็นอย่างมาก เพราะว่าเธอไม่ชอบการโกหก และเธอพร้อมที่จะอารมณ์เสียได้ทุกเมื่อเกิดความไม่ซื่อสัตย์ขึ้นในองค์กร ความจริงสามารถช่วยให้เราได้รับสิ่งดีๆ มากมายเข้ามาในชีวิต ทั้งความถ่อมตน การได้รับความช่วยเหลือ ความใกล้ชิด และการเป็นที่รักของใครๆ

17. การซื่อสัตย์ต่อตนเอง

การซื่อสัตย์ต่อตนเองนั้น ก็คือการเปิดใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก้าวข้ามมันไป ซึ่งความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์นั้น ก็คือการที่ไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง หรือที่การกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าตนไม่ได้ผิดพลาด

Ginni Rometty ซีอีโอของ IBM เคยกล่าวกับนิตยสารฟอร์บส์ว่า “ไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการไม่รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดอีกแล้วล่ะ”

[บทความที่เกี่ยวข้อง] วิธีตักตวงประโยชน์จาก “ความผิดพลาด” ให้คุ้มค่าที่สุด โดย John C. Maxwell

Source: Time