10 นิสัย ที่เหล่ามหาเศรษฐีมักใช้ เพื่อ “ผลักดันตัวเอง”

13681

คุณเคยรู้สึกทึ่งในความกะตือรือร้นและมุ่งมั่นของเหล่านักธุรกิจ ผู้นำ หรือนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ไหม? ความรู้สึกนี้ไม่ใช่เพราะความอิจฉาหรอกนะ แต่คือการนับถือในความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขาต่างหากล่ะ คำพูด ลักษณะนิสัย และการใช้ชีวิตของพวกเขาล้วนเป็นแรกผลักดันชั้นดีให้ผู้คนได้ขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า

และด้วย 10 นิสัยต่อไปนี้แหละ ที่สามารถสร้างแรงผลักดันให้คุณมุ่งมั่นมากขึ้นได้

 

1. ถามหา “เหตุผล” กับตัวเองเสมอ

บรรดาผู้คนที่มีแรงผลักดันในตัวเองสูงมักจะเริ่มต้นวันของพวกเขาด้วยการถามตัวเองว่า “ทำไม?”

ทำไมเราถึงทำสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้? ถ้าคุณจะบอกว่า คุณอยากปีนภูเขาแค่เพียงเพราะว่าภูเขามันมีไว้ให้ปีน เพียงแค่นั้นก็คงไม่พอจะทำให้คุณฮึดสู้ปีนต่อถ้าเจอเส้นทางยากๆ ได้แน่ ดังนั้น จงหาเหตุผลของสิ่งที่ทำ และถ้ามันสำคัญต่อคุณจริงๆ นั่นจะทำให้คุณมีแรงฮึดสู้ต่อทุกๆ สถานการณ์ที่พบเจอ

2. ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก

เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ คุณอาจรู้สึกท้อแท้และหดหู่ไปหมด ในขณะที่คนอื่นๆ ก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหล่านี้เหมือนกัน

การติดอยู่กับความโกรธ ความผิดหวัง และความเศร้านั้นอาจจะทำให้คุณก้าวไปไหนไม่ได้สักที และบางทีการแสร้งทำเป็นว่าคุณไม่รู้สึกอะไรก็อาจมีผลเสียต่อสุขภาพจิตและกายในระยะยาวได้อีกด้วย ดังนั้น จงหาความพอดีในการจัดการกับความรู้สึกภายในตนเองให้ได้ อย่าให้มันต้องมาทำร้ายคุณ อย่างเช่น คุณอาจไม่พอใจเพื่อนร่วมงานที่ขโมยไอเดียคุณไป การได้ระบายกับเพื่อนสนิทนับเป็นวิธีการที่ดีกว่าการเก็บความรู้สึกนั้นไว้จนมันทำร้ายคุณเอง

3. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดีกว่าเดิม

หนึ่งในนิสัยที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่กระตุ้นแรงจูงใจก็คือ การหาอะไรทำเป็นกิจวัตรยามเช้า การเริ่มต้นวันที่ดีจะทำให้คุณรักษาความกะตือรือล้นไปได้ตลอดวัน ดังเคล็ดลับเล็กๆ น้อยต่อไปนี้

หาแรงจูงใจในการลุกจากที่นอน : ไม่ว่าจะพาสุนัขไปเดินเล่น หรือเพื่อไปส่งลูกๆ ของคุณไปโรงเรียน ไม่ก็เพื่อการออกกำลังกายเล็กน้อยก่อนไปทำงาน

ยืดตัวและสูดหายใจเข้าลึกๆ : มันช่วยให้เลือดกับออกซิเจนไหลเวียนเข้าสู่สมองได้ดีและทำให้คุณตื่นขึ้นอย่างสดใส

ทำอะไรง่ายๆ เพื่อเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ : เก็บที่นอนทันทีที่ตื่น ไม่ใช่เพียงแค่เพราะให้เตียงคุณดูน่านอนเท่านั้น นี่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกว่าอย่างน้อย เช้านี้คุณก็ได้ทำอะไรสำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่างเพียงแค่ลุกจากเตียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

กำหนดเป้าหมายต่อวัน : ไม่จำเป็นต้องมีหลายข้อ ขอเพียงมีสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำให้สำเร็จในวันนั้นก็พอ

4. เปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เสมอ

กล่าวกันว่า “ความหลากหลาย คือรสชาติแห่งชีวิต” เพราะการคงไว้ซึ่งสิ่งเดิมๆ สามารถเพิ่มแรงจูงใจให้คุณได้แค่เมื่องานไม่คืบหน้าไปไหนเลย แถมยังเสี่ยงต่อการล้มเหลวด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงนับว่าเปรียบได้กับการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง คุณไม่สามารถออกกำลังกายแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งร่างกายได้ ส่วนอื่นๆ ก็ต้องการการดูแลเช่นกัน เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตของคุณ ที่การเปลี่ยนแปลงทำให้คุณลดความเบื่อหน่ายต่อสิ่งต่างๆ ได้ ลองมองหาทักษะใหม่และสร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์บ้าง

5. จดบันทึกพัฒนาการของตัวเอง

นี่เป็นวิธีที่ง่ายๆ ในการดูว่าคุณได้เดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น คุณกำหนดเป้าหมายการอ่านหนังสือ บางทีคุณอาจจะอยากอ่านให้ได้มากกว่าปกติที่เคยทำมา โดยเป้าหมายแรกของคุณก็คืออาจจะอ่านเพียง 5 นาทีต่อวัน  แต่พอคุณอ่านเกินเป้าหมาย ล่วงเลยเวลามาเป็น 10 นาที 30 นาทีต่อวันได้ ก็ลองคิดง่ายๆ ว่า แล้วทำไมไม่ลองเพิ่มเป็น 40 นาทีดูบ้างล่ะ แค่นี้ก็ทำให้คุณสามารถอ่านหนังสือได้ตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แล้วก็จดบันทึกพัฒนาการแต่ละอย่างของตัวเองไว้ด้วยล่ะ

6. สร้างสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นแรงบันดาลใจ

ทำเป้าหมายหรือคำพูดสร้างแรงบันดาลใจของคุณบนกระดาษโน๊ตเล็กๆ และแปะลงบนผนังออฟฟิศ ในรถ กระจกห้องน้ำหรือปฏิทินของคุณ การเตือนความจำเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณอยู่เรื่อยๆ จะช่วยให้คุณไม่ลืมเป้าหมาย และทำมันสำเร็จได้ในที่สุด

7. เข้าร่วมกลุ่มในโลกออนไลน์หรือในชีวิตจริงซักกลุ่มนึง

การสร้างแรงจูงใจให้ตนเองเป็นเรื่องยากพอสมควร ถ้าเคยไปยิมหรือเลิกบุหรี่ด้วยตนเอง คุณจะรู้ว่ามันค่อนข้างยากทีเดียว แต่มันจะง่ายกว่ามากเมื่อมีอีกคนคอยช่วยผลักดันกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยสนทนา หรือการเข้าร่วมคอร์สอบรมต่างๆ การได้เจอคนที่มีเป้าหมายเหมือนกันจะเติมพลังให้คุณมีแรงตั้งใจทำต่อไปมากขึ้นได้ ทั้งยังได้แบ่งปันคำแนะนำต่อกัน ให้กำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กันด้วยในเวลาท้อแท้ด้วย

8. รู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งต่อสิ่งต่างๆ

เพียงแค่คุณรู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งกับสิ่งที่พบในชีวิตประจำวันก็สามารถเป็นแรงผลักดันที่ทำให้คุณทำ
เป้าหมายไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ได้สำเร็จ  ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้สึกภูมิใจที่คุณสามารถหาลูกค้าคนใหม่ได้ในวันนี้ วันต่อไปคุณจะมีแรงผลักดันในการหาลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกนั่นเอง

9. ค้นหาสิ่งที่คุณหลงใหล

ความหลงใหลมีพลังผลักดันได้มากกว่าทุกสิ่ง และจริงๆ แล้วบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็คือ คนที่ไล่ตามสิ่งที่พวกเขาหลงใหลและทำในสิ่งที่พวกเขารัก เมื่อคุณเริ่มหลงใหลในสิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การออกกำลังกายหรือการทำงานเป็นอาสาสมัครอะไรต่างๆ ทุกๆ งานที่ทำจะกลายเป็นความสนุก คุณจะเอาแต่เฝ้ารอคอยที่จะได้ทำมันและอยากพัฒนาให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ

10. จินตนาการถึงภาพความสำเร็จ

การนึกถึงภาพความสำเร็จในอนาคตไว้ในใจไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันไร้สาระ แต่ตรงกันข้าม มันส่งผลให้แนวโน้มที่ฝันนั้นจะกลายเป็นจริงมีสูงมากเลยล่ะ แล้วการนึกภาพในอนาคตสามารถจูงใจคุณได้อย่างไรน่ะหรือ?  ภาพชีวิตในอนาคตหากคุณทำสำเร็จหรือล้มเหลวล้วนเป็นแรงกระตุ้นที่มีพลังมาก

นอกจากนี้ การจินตนาการถึงความสำเร็จยังช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลลงด้วย เพราะมันไม่มีขอบเขตหรือขีดจำกัดอะไรมายับยั้งความคิดของคุณได้เลย การได้เห็นภาพตัวเองทำสิ่งที่ฝันจะเป็นแรงบันดาลใจ และสร้างความมั่นใจให้คุณมุ่งมั่นมากขึ้นได้ โดยอาจเริ่มต้นด้วยทักษะง่ายๆ ก่อน เช่น นึกภาพว่าคุณจะตื่นเช้ากว่าปกติ หรือจะอ่านหนังสือให้นานขึ้นอีกสักนิด เพื่อพัฒนาทักษะการจินตนาการให้แข็งแรงก่อนที่จะต้องไปเผชิญกับเรื่องที่ใหญ่ๆ ที่ซับซ้อนกว่าต่อไป

 

Source: Entrepreneur