
สิ่งสำคัญของการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ไม่ใช่แค่เพียงการเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่กิจกรรมที่คุณทำก่อนเข้านอนก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะหากกิจกรรมเหล่านั้น ทำให้คุณรู้สึกตึงเครียดหรือตื่นตัว ผลที่ตามมาคือคุณก็จะนอนไม่หลับ
เรารู้ว่ามันฟังดูง่ายกว่าทำจริง แต่ถ้าหากคุณอยากนอนอย่างเต็มอิ่ม และตื่นขึ้นมาด้วยความพร้อม เริ่มต้นวันใหม่อย่างแข็งขันแล้วละก็ คุณก็ควรงดการทำ 7 กิจกรรมต่อไปนี้ก่อนนอนนะ
1. งดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด
จากการวิจัยพบว่า การเพ่งมองหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นเวลานาน จะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น เนื่องจากแสงสีฟ้าและสีขาวจากหน้าจอ จะรบกวนระบบการผลิตฮอร์โมน เมลาโทนินของสมอง ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นนาฬิกาของร่างกายว่าควรเข้านอนเมื่อไหร่
อาเรียนนา ฮัฟฟิงตัน (Arianna Huffington) ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ออนไลน์
The Huffington Post แนะนำว่า ก่อนเข้านอน คุณควรอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม แทนการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
2. ไม่ควรกินยานอนหลับ (เว้นแต่คุณมีอาการโรคนอนไม่หลับ)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประมาณการว่าร้อยละ 4 ของเด็กวัยรุ่นอเมริกันที่อายุ 20 ปีขึ้นไปใช้ยานอนหลับเป็นตัวช่วย ในขณะที่แพทริค ฟุลเลอร์ (Patrick Fuller) นักวิทยาศาสตร์ ผู้วิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า “อันที่จริง คนที่กินยานอนหลับนั้น ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพายาเลย สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ ควรเลิกยานอนหลับให้ได้ ”
การที่คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นโรคนอนไม่หลับเสมอไป เพราะฉะนั้นการกินยานอนหลับจึงไม่ช่วยอะไรมาก เนื่องจากยาเหล่านี้มักจะมีผลข้างเคียงตามมา ได้แก่ อาการปวดตามกล้ามเนื้อต่างๆ จนไปถึงการสูญเสียความทรงจำ ไม่เพียงเท่านั้นนั้น ฟุลเลอร์ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่กินยานอนหลับเป็นระยะเวลานานอาจเกิดอาการเสพติดจนต้องกินยานอนหลับก่อนนอนเป็นประจำ ทั้งนี้ปัญหาการนอนหลับอาจแย่ลงกว่าตอนที่ยังไม่กินยาเสียอีก
3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน
ใครๆ ก็คิดว่าการจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยทำให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น แต่กลับมีการวิจัยค้นพบว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนนั้นยิ่งทำให้หลับยากขึ้น เนื่องจากร่างกายจะนำแอลกอฮอล์เข้าสู่กระบวนการเผาผลาญ และส่งผลให้ร่างกายของคุณตื่นตัวไปด้วย และด้วยเหตุนี้ คุณก็อาจจะนอนไม่หลับไปตลอดทั้งคืน
นอกเหนือจากนั้น จูเลีย แคลเดอโรน (Julia Calderone) จากเว็บไซต์ Tech Insider กล่าวว่า มีวิจัยที่พบว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะเข้าไปรบกวน การนอนหลับในช่วง rapid eye movement (REM) หรือช่วงเวลาที่ร่างกายหลับแต่สมองยังคงทำงานอยู่ ซึ่งเป็นระยะที่สำคัญอย่างมากต่อความจำและสมาธิ
4. เลี่ยงการทำงานบนเตียงหรือในห้องนอน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ห้องนอนนั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการพักผ่อน เพราะฉะนั้นเราจึงควรใช้ห้องนอนสำหรับการพักผ่อน หรือกิจกรรมสำหรับคู่รักเพียงเท่านั้น หากคุณใช้ห้องนอนทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ มันก็อาจไม่สามารถทำให้คุณผ่อนคลายหรือหลับสบายได้
5. งดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังห้าโมงเย็น
นักวิจัยได้ทำการทดลอง โดยให้ผู้ทดลองดื่มกาแฟเย็นสตาร์บัคขนาดแก้วที่ใหญ่ที่สุดในเมนู (591 ml) ซึ่งมีปริมาณของคาเฟอีน 400 มิลลิกรัมก่อนนอน 6 ชั่วโมง ผลการทดลองพบว่า ระยะเวลาในการนอนของผู้ทดลองลดลงไป 1 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับระยะเวลาในการนอนของผู้ทดลอง ไม่ดื่มกาแฟก่อนนอน ผลของการทดลองชี้ให้เห็นว่า เราไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน 6 ชั่วโมง หรือประมาณหลัง 5 โมงเย็น เนื่องจากคาเฟอีนจะรบกวนร่างกายในระหว่างการนอนหลับ ทำให้ร่างกายตื่นตัว
6. งดการรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันมากก่อนเข้านอน
จากการศึกษาพบว่า การรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมงก่อนนอนอาจทำให้คุณภาพและปริมาณการนอนหลับ ลดลงโดยเฉพาะในผู้หญิง การรับประทานอาหารก่อนนอนนั้นจะมีผลต่อการนอนหลับในช่วง REM อย่างมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณรู้สึกหิวก่อนนอน อาหารที่คุณควรจะรับประทานคือ ธัญพืชคู่กับโปรตีน เช่น ขนมปังกับเนยถั่ว เพื่อไม่ให้ระบบการเผาผลาญ ทำงานหนักจนเกินไป
7. งดการออกกำลังกายก่อนเข้านอน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณยุ่งกับการทำงานทั้งวันและเวลาเดียวที่คุณสามารถออกกำลังกายได้ คือ ก่อนนอน คุณก็ควรออกกำลังกายแบบที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น โยคะ หรือ การยืดเส้นยืดสายเบาๆ แทนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพราะนั่นจะทำให้อุณหภูมิร่างกายจะเพิ่มขึ้น และนอนหลับยากขึ้น
Source : Business Insider